Jul 15, 2015

กบ กบ กบ... อ้บอ้บ

ครั้งเมื่อยังเป็นเด็ก เราอาจเคยได้ยินนิทานเรื่องเจ้าชายกบ ผมเองก็เป็นฅนหนึ่งที่ได้ฟังนิทานเรื่องนี้ และสงสัยเหลือเกินว่า เจ้าหญิงรูปงามนั้น กล้าจูบกบที่มีรูปร่างแสนจะอัปลักษณ์ได้อย่างไร

เนื้อตัวก็ตะปุ่มตะป่ำ สีก็ดูซีดเซียว ตัวก็เล็ก หน้าตาก็ดูไม่ค่อยฉลาด ...
ใช่แล้วครับ ตอนเด็กๆ ผมเข้าใจผิดว่า คางคก คือ กบ มาตลอด

จนวันหนึ่ง ได้กินกบผัดเผ็ด ถึงรู้ว่ากบนั้นจริงๆ หน้าตาเป็นอย่างไร

หลายครั้งที่ได้นึกถึงเรื่องนี้ก็มักจะนึกต่อไปถึงสำนวนไทยที่ว่า คางคกขึ้นวอ
อดสงสัยไม่ได้ว่า คนสมัยโบราณนี่ช่างเข้าใจเปรียบเปรยนะ
ฅนเราพอมีใครชมเข้าหน่อย ก็ทำทะนงตัว คิดว่าตัวเองนี่สำคัญ แน่แล้ว เด่นแล้ว ดังแล้ว
สุดท้ายก็ยังคงเป็นได้แค่ คางคก ตัวหนึ่งเท่านั้น

ตอนเด็กๆ ก็สงสัยนะว่า ทำไมไม่ใช้ กบขึ้นวอ เนาะ
และก็ไม่มี คางคกในกะลา ด้วยนะ มีแต่สำนวน กบในกะลา
ทั้งที่ก็เปรียบเปรยไม่ต่างกันถึงคนจำพวกที่คิดว่าโลกที่ฉันเห็น ความรู้ที่ฉันมีนั้น มันยิ่งใหญ่คับฟ้าเสียเต็มประดา ทั้งที่จริงๆ แล้ว น้อยนิดเท่าหางอึ่ง

จะว่าไปตอนเด็กๆ ผมจับอึ่งมาเล่นหลายครั้งเพราะพยายามจะมองหาว่า หางมันอยู่ตรงไหนนะ แต่ก็ไม่เคยเจอเสียที

ในบรรดาสัตว์ทั้ง ๓ ตัวนี้ ผมก็ยังโหวตให้กบนะ เพราะกบมันกินได้ ผมคิดว่าคนโบราณเขาก็คงกินกัน ถึงมีคำพูดติดปากกันว่า ต้มกบ

กบส่วนใหญ่นั้นแข็งแรง เราจับลงหม้อที่น้ำเดือดๆ ร้อนๆ ยังไงมันก็กระโดดหนีออกมาได้
คนเก่งหลายคนก็เป็นอย่างนั้น โดดไปเจอปัญหา ก็หาวิธีจัดการแก้ปัญหาหรือหลบหลีกกระโดดหนีเอาตัวรอดออกมาจนได้
วิธีต้มกบที่ได้ผลคือ ต้องใส่กบลงในน้ำธรรมดา แล้วค่อยๆ เร่งไฟให้ร้อน คนเก่งๆ หลายคนที่มองไม่เห็นว่า แท้จริงแล้ว สถานการณ์ที่ตนเองเผชิญอยู่นั้น กำลังย่ำแย่เลวร้ายลงขนาดไหน ปัญหาจริงๆ คืออะไร กว่าจะรู้ตัวก็เลยเส้นกู่ไม่กลับไปแล้ว กลายเป็นกบต้มสุกให้คนเขาเอาไปกินกัน

จะว่าไป นิทานของฝรั่งอย่าง เจ้าชายกบ นี่ก็ใช่ย่อยนะครับ เพราะในมุมของกบตัวหนึ่ง มันก็คงเฝ้าฝันหลงเพ้อว่าตนเองนั้นเป็นเจ้าชาย สูงส่งด้วยปัญญาและความสามารถ รอเพียงจะได้พบกับเจ้าหญิงที่คู่ควร และหากได้รับโอกาสจากเจ้าหญิง กบตัวน้อยก็จะเเปลงร่างเป็นเจ้าชายหนุ่มรูปงาม ที่พร้อมจะมอบความสุขให้เจ้าหญิงไปจนนิรันดร์

.
.
.
ชีวิตฅนเรานั้นก็เหมือนกัน

เราแต่ละฅนล้วนแตกต่างกัน แม้อาจจะบางเรื่องที่ดูคล้ายกันบ้าง หลายครั้งเราถูกตัดสินจากคนอื่น ซึ่งเขาเห็นลักษณะภายนอกบางอย่างของเราคล้ายกับอีกคนหนึ่ง ทั้งที่ความเป็นจริง ทั้งสองฅนนี้ อาจต่างกันอย่างมากก็เป็นได้

เรายังต้องเรียนรู้ ยังต้องฝึกฝนตัวเองอีกมาก โลกนี้กว้างใหญ่นักและหมุนเร็วมากขึ้นทุกวันๆ
ตลอดเวลาที่ผมทำงานมา ๑๕ ปี ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองฉลาดกว่าฅนอื่นเลย แม้แต่วันเดียว ไม่เคยคิดว่าลูกค้าโง่กว่า ไม่รู้อะไร ไม่เคยคิดว่าเราฉลาดกว่าลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่หัวหน้าก็ตามที
เราทุกฅนแค่เก่งต่างกัน เก่งกันละด้าน แค่ยอมรับจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเองและฅนอื่น ให้เกียรติแก่กันและกัน

ไม่ต้องเหมือนเจ้าชายกบที่ต้องพยายามทำตัวให้ดูดีดูเด่น เพื่อเรียกความสนใจจากเจ้าหญิง ต้องยกตนขึ้นมาโอ้อวดเพื่อให้เจ้าหญิงเชื่อว่า นี่คือเจ้าชายรูปงาม จนยอมมอบจุมพิตให้ ตื่นเถิดกบน้อย
ความกลัวว่าจะไม่ได้กลายร่างเป็นเจ้าชายนั่นแหล่ะ คือ สิ่งสำคัญที่ทำให้กบสูญเสียตัวตนของตัวเองไป

.
.
.
อย่าเป็นกบเลย เป็นฅนกินกบดีกว่า... eat that frog!