กลับมาบ้านครั้งนี้ สภาพแม่แย่ลงมากๆ
แม่พูดเสียงเบามาก แทบไม่มีแรงแม้แต่จะยกช้อนตักข้าวใส่ปาก
ความจำก็เลอะเลือน แทบจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย
แม่พูดเสียงเบามาก แทบไม่มีแรงแม้แต่จะยกช้อนตักข้าวใส่ปาก
ความจำก็เลอะเลือน แทบจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย
ตลอด 4-5 วันที่อยู่กับแม่ ทุกครั้งเวลาที่แม่รู้สึกตัวดี
ก็จะถามซ้ำเรื่องเดิมๆ ทำงานเป็นยังไง นอนดึกไหม
กินข้าวมื้อละกี่บาท กินอิ่มไหม ห้องที่อยู่เป็นยังไง...
แต่ช้อตที่ผมรู้สึกสะเทือนที่สุดคงเป็นตอนที่แม่สลึมสลือง่วงนอน
แต่ช้อตที่ผมรู้สึกสะเทือนที่สุดคงเป็นตอนที่แม่สลึมสลือง่วงนอน
แต่ก็ยังฝืนคุยกับผมที่นั่งอยู่ข้างเตียง
จะทำกินยังไง ขายปุ๋ยสิ เลี้ยงกุ้งสิ เก็บเงินเก็บทองไว้บ้าง
หรือไม่ก็พูดเรื่องชีวิตคู่ ให้รักกันดีๆ ใจเย็นๆ ช่วยกันทำมาหากิน...
ผมรู้สึกว่า แม้แม่จะแทบช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แล้ว
แต่แม่ไม่ได้กังวลกับสภาวะของตัวเองมากไปกว่าเป็นห่วงว่าผมจะไม่ค่อยดูแลตัวเอง
แม้แม่จะเดินไม่ได้ แต่แม้กลับกังวลมากกว่าว่า ผมเติบโตจนเดินเองได้หรือยัง
แม้แม่จะไม่สบายเอาซะเลย แต่แม่กลับเป็นห่วงว่าผมเป็นอยู่สบายดีไหม
ในสายตาของแม่ ผมก็ยังเป็นลูก เป็นเด็กน้อยของแม่อยู่เสมอ
แม้แม่จะเดินไม่ได้ แต่แม้กลับกังวลมากกว่าว่า ผมเติบโตจนเดินเองได้หรือยัง
แม้แม่จะไม่สบายเอาซะเลย แต่แม่กลับเป็นห่วงว่าผมเป็นอยู่สบายดีไหม
ในสายตาของแม่ ผมก็ยังเป็นลูก เป็นเด็กน้อยของแม่อยู่เสมอ
ทั้งที่ในความเป็นจริง ตอนนี้แม่แทบไม่ต่างจากเด็กเล็กคนนึงที่พ่อคอยดูแลอยู่
ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงนอนไปแล้ว ถ้าแม่ปวดฉี่ พ่อก็ยังต้องลุกขึ้นมาพาแม่เข้าห้องน้ำ
ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงนอนไปแล้ว ถ้าแม่ปวดฉี่ พ่อก็ยังต้องลุกขึ้นมาพาแม่เข้าห้องน้ำ
ช่วยป้อนข้าว คอยประคองเวลาจะลุก จะนั่ง จะนอน
กดเครื่องระบายน้ำจากกระโหลกศรีษะ
ทำกายภาพ ทำกับข้าว อาบน้ำ
เวลาแม่หงุดหงิด ต่อว่า ประชดประชัน ซึ่งเป็นอาการปกติของคนที่ผ่าตัดสมอง
พ่อก็อดทน และเปลี่ยนบรรยากาศให้กลายเป็นเรื่องขบขันไป
กดเครื่องระบายน้ำจากกระโหลกศรีษะ
ทำกายภาพ ทำกับข้าว อาบน้ำ
เวลาแม่หงุดหงิด ต่อว่า ประชดประชัน ซึ่งเป็นอาการปกติของคนที่ผ่าตัดสมอง
พ่อก็อดทน และเปลี่ยนบรรยากาศให้กลายเป็นเรื่องขบขันไป
พ่อบอกว่า หลังๆ มานี่ แทบไม่ได้ไปไหน ไม่ได้ทำอะไรเลย
เพราะปล่อยแม่ไว้ให้อยู่ลำพังไม่ได้เลย
ลองจ้างคนอื่นมาอยู่ด้วย ก็ไม่ได้ แม่ไม่ไว้ใจเขา แม่จะเกร็งและดูเครียด
ตอนนี้เลยดูเหมือนจะเหลือกันอยู่แค่สองคนเท่านั้น
ลองจ้างคนอื่นมาอยู่ด้วย ก็ไม่ได้ แม่ไม่ไว้ใจเขา แม่จะเกร็งและดูเครียด
ตอนนี้เลยดูเหมือนจะเหลือกันอยู่แค่สองคนเท่านั้น
.
.
.
อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเด็ก นั่นอาจช่วยให้เราย้อนนึกถึงชีวิตเราในวัยเยาว์
หรือความสำคัญของเด็กและเยาวชน ฅนรุ่นต่อไป
แต่วันนึง ถ้าเราไม่ประสบอุปัทวเหตุจนตายไปเสียก่อน
แต่วันนึง ถ้าเราไม่ประสบอุปัทวเหตุจนตายไปเสียก่อน
เราอาจต้องกลับไปมีสภาพคล้ายเด็กเล็กๆ ฅนหนึ่งอีกครั้งก็เป็นได้
ดังนั้น ในอีกแง่มุมหนึ่ง วันเด็ก จึงอาจช่วยให้เราระลึกถึงวัฏสงสาร
ช่วยให้เราปลงจิต สำรวมใจเราได้บ้าง ว่าอะไรคือแก่นสารของชีวิตกันแน่...
.
.
.
เท่าที่ผมรู้ พ่อไม่เคยบอกว่า รักแม่
แต่จากที่ผมเห็น ผมรู้ว่า พ่อรักแม่
แต่จากที่ผมเห็น ผมรู้ว่า พ่อรักแม่
แม้ว่าวันนี้ แม่อาจจะเป็นเหมือนเด็กเล็กๆ คนหนึ่งก็ตาม
No comments:
Post a Comment