Mar 2, 2010

ดูหนังดูละครย้อนดูตัว... The Book of Eli

ผมชอบหนังเรื่องนี้มาก ด้วยเหตุผลที่หลากหลายแง่มุม มันดิบ มันเถื่อน มันจริง
แม้มันจะเป็นเพียงการจินตนาการถึงอนาคตที่กำลังจะมาถึงก็ตาม

Eli เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่รอดจากสงครามครั้งใหญ่ สงครามที่ทำให้โลกถูกเผาและสว่างจ้านานนับปี
นับจากนั้น โลกก็ตกอยู่ในสภาพของความขาดแคลนที่เลวร้าย
หนังสือที่ทรงอิทธิพลเล่มหนึ่ง (ซึ่งปัจจุบันพิมพ์เผยแพร่เป็นภาษาต่างๆมากที่สุดในโลก) ถูกเผาไฟทิ้ง
บ้างก็ว่ามันจะช่วยกอบกู้โลกนี้ได้ บ้างก็ว่ามันคือต้นเหตุของสงครามใหญ่ครั้งนั้น

Eli ได้ยินเสียงหนึ่งดังก้องอยู่ในหัวเขา เขาได้ยินชัดเจนเหมือนเสียงคนคุยกัน
นำเขาไปยังสถานที่ยังมีสำเนาหนังสือเล่มนั้น และให้เขาออกเดินทางไปทางทิศตะวันตก
จะพบสถานที่ที่หนังสือเล่มนั้นจะได้รับการเก็บรักษาอย่างปลอดภัย

เขาออกเดินทางโดยไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ไปอย่างไร จะอยู่อย่างไร จะเจออะไรบ้าง
สิ่งที่เขารู้คือ มุ่งตะวันตก และ เสียงนั้นจะปกป้องรักษาเขาให้ปลอดภัย...

ระหว่างทาง Eli ไม่ยอมให้ใครได้แตะต้องหนังสือเล่มนั้น
จนได้พบกับชายคนหนึ่ง ที่ต้องการหนังสือเล่มนี้เช่นกัน
เขาทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ครอบครอง แม้แต่ใช้ลูกสาวตัวเอง
ฉากนี้ผมประทับใจกับคำพูดของ Eli มาก
เขาพูดว่า ถึงเวลาที่จะต้องทำตามสิ่งที่หนังสือสอนซะที
คือ การทำเพื่อคนอื่นมากกว่าเพื่อตัวเอง...

ตอนใกล้จบ หนังได้เฉลยอะไรบางอย่างที่ทำให้เรายิ่งต้องทึ่งกับการเดินทางของ Eli มากขึ้นไปอีก
ทึ่งมากจนอยากจะดูอีกรอบ


บางครั้งคนเราก็มีสิ่งสำคัญของชีวิต สิ่งที่เรายินดีจะปกป้องด้วยชีวิตของเราเอง
สิ่งที่เรายินดีจะสละทุกสิ่งเพื่อให้ได้มาในครอบครอง
และบางครั้ง สิ่งที่คนหนึ่งปกป้อง กลับกลายเป็นสิ่งเดียวกับที่อีกคนหนึ่งต้องการครอบครอง

วิธีการไม่ได้สำคัญน้อยไปกว่าผลลัพธ์
การจดจ่ออยู่กับการบรรลุเป้าหมาย อาจทำให้เราถูกครอบงำ
ไม่คำนึงถึงวิธีการที่ถูกต้อง และมักนำมาซึ่งความพินาศในที่สุด

ทุกๆ ขั้นตอนของกระบวนการสู่ความสำเร็จล้วนมีคุณค่า
ผู้ที่เดินผ่านจนถึงปลายทางเท่านั้น จึงควรค่าแก่ความสำเร็จที่ได้รับ
บางครั้งเราอาจจะคิดว่า ความสำคัญ มันอยู่ที่เบื้องปลาย
แต่บ่อยครั้ง ที่ความสำคัญนั้น อยู่ระหว่างทาง

จะมีประโยชน์อะไรถ้าเราทำงานหาเงินมากๆ เพื่อหวังว่าจะสร้างครอบครัวที่มีความสุข
แต่เมื่อถึงวันนั้นที่เรามีเงินมากๆ อาจไม่เหลือครอบครัวให้เราสร้างแล้วก็ได้

ชีวิตคนเรา ไม่ช้าก็เร็วคงต้องจากโลกนี้ไป
แต่ก่อนไปคงจะดีหากเราได้ทำภารกิจของเราให้เรียบร้อย
บางสิ่งที่จะได้รับการถ่ายทอดสู่คนรุ่นต่อไป
บางสิ่งที่จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงให้โลกนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้น
มันอาจจะเป็นสิ่งใหญ่โตยากเย็นแสนเข็ญชนิดเลือดตาแทบกระเด็น
หรืออาจเป็นสิ่งเล็กๆ เช่นการให้น้ำดื่มกับชายแปลกหน้าซักคน

ชีวิต เป็นเรื่องของการเดินทางในแต่ละวัน เป้าหมายที่สำเร็จลงได้ก็เป็นเช่นเดียวกัน

ระหว่างที่ดูหนัง ผมรู้สึกว่าคนที่จะได้รับโอกาสในการทำภารกิจ ยิ่งสำคัญ ยิ่งต้องเป็นคนมีฝีมือ
แต่ตอนที่หนังจบ ผมกลับมองว่า คนที่ยิ่งมีพลังใจมากต่างหาก ที่จะได้รับโอกาสนั้น

ทักษะเรียนรู้กันได้... ง่ายกว่าฝึกฝนให้มีจิตใจที่แข็งแกร่ง

เพราะคงมีแต่คนจิตใจเข้มแข็งเท่านั้น ที่ถูกยิงแล้วยังเดินทางต่อไปยังไม่ยอมตาย
จนสามารถถ่ายทอด หนังสือ นั้นได้ครบทุกตัวอักษร


ขอทรงโปรดนำทางผม สร้างผมให้มีจิตใจที่แข็งแกร่ง ประทานกำลังให้ผมในการเดินทางแต่ละวัน...เอเมน

“I have fought a good fight, I have finished my course, I have kept the faith.” 2Timothy 4:7

No comments:

Post a Comment