Mar 23, 2011

ระหว่างทาง

วันนี้พาแม่ไปโรงพยาบาลที่จันทบุรี
คนที่เคยไปโรงพยาบาลของรัฐ โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้สิทธิพื้นฐานที่พลเมืองควรจะได้
คงทราบดีว่า เราต้องไปเช้าขนาดไหน เพื่อจะรอพบหมอเป็นคนแรกๆ... ประมาณ 10 โมง

ไปโรงพยาบาลครั้งนี้ ลุงกำนันช่วยขับรถไปให้

เช้าวันนี้ฝนตกหนักตั้งแต่ตี 4 และก็ยังตกมาเรื่อยๆ
จนทำให้หลายคนหลับสบายจนไม่อยากจะลุกออกจากเตียง

เราออกจากบ้านช้ากว่าที่ตั้งใจไว้

ระหว่างทาง เราพบรถยนต์คันหนึ่งขับชนต้นไม้จนหน้าพังยับยู่
ดูจากร่องรอยต้นไม้ที่หัก 2 ต้น รถน่าจะข้ามร่องกลางถนนมา
มีบางคนหยุดดูให้ความช่วยเหลือ รถคันข้างหน้าเราเลี้ยวกลับไป
กำนันมีท่าทางกังวลใจอยู่ไม่น้อย
พอๆ กับความร้อนใจที่ต้องรีบไปให้ถึงโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด...

กำนันเลี้ยวรถเข้าไปแจ้งให้ตำรวจทางหลวงทราบ
ก่อนเราจะมุ่งหน้าต่อไปยังจุดหมายปลายทางของเรา

ผมสังเกตุดูการขับรถของลุงกำนันตลอดทาง สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นก็คือ
การบีบแตร เปิดสัญญาณไฟ และมองนู่นมองนี่ ตลอดเวลา...

ในโลกสังคมเสมือน Social Network แต่ละคนอาศัยอยู่ในนี้ด้วยจุดประสงค์ต่างๆ กัน
และบ่อยครั้งที่ผมได้ยินคนพูดว่า แค่เห็นผ่านๆ ไม่ใช่เรื่องของเรา ธุระไม่ใช่ ไม่ยุ่งดีกว่า
หนักๆเข้า บางคนถึงขนาด ซ่อนรายชื่อติดต่อ
ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่า แล้วทำไมไม่เลิกเป็นเพื่อนให้รู้ๆ กันไปเลย

ในโลกสังคมแท้จริง เราสามารถจริงใจและหลอกลวงได้มากกว่าในโลกเสมือนมากนัก
จะต่างกันก็ตรงที่ว่า ในโลกจริง มนุษย์มีความรู้สึก ที่ไม่อาจปิดบัง หรือ ซ่อนเร้นได้

เราไม่อาจมองผ่านๆ ทักทายผ่านๆ ไม่ได้ใส่ใจใยดีคนอื่นๆ (ที่เราไม่สนใจ) ทำเสมือนคนตรงหน้าเราไม่มีตัวตน
โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว
มนุษย์เรามีความสามารถในการรับรู้อารมณ์และความรู้สึก

ผมเห็นด้วยว่า คนเราทุกคน ควรมีจุดหมายปลายทางในชีวิต
แต่สิ่งที่จะเติมเต็มให้เรามีชีวิตจริงๆ คือ ผู้คนรอบข้างเรา คนที่เราพบเจอระหว่างทางสู่จุดหมายนั้นๆ
ทั้งคนที่เราสบายใจจะติดต่อ และสบายใจที่จะไม่ติดต่อ

เราไม่ได้รู้จักตัวตนของคนอื่นๆ (และตัวเราเองด้วย ถ้าเรายอมรับได้)จาก
"ปริมาณ" หรือ "ประเภท" ของถ้วยรางวัลของเขา
แต่เรารู้จักตัวตนของคน จาก "วิธีการ" ที่เขาได้รับถ้วยรางวัลมา

No comments:

Post a Comment