เมื่อหลายวันก่อน ได้รับมอบหมายภารกิจแห่งลูกผู้ชาย
นั่นคือ การไปเก็บ (ยอดอ่อน)ใบตำลึง ท้ายไร่
ก่อนที่จะถูกตัดไปพร้อมกับหญ้า
ตำลึงเป็นพืชไม้เลื้อยชนิดหนึ่ง และเนื่องจากบ้านผมเป็นสวน
เราจึงไม่อนุญาตให้ตำลึงเลื้อยขึ้นไปบนต้นไม้
ให้เลื้อยได้เฉพาะบนดินเท่านั้น
ดังนั้น
ถ้าต้องตัดหญ้า หมายถึงตำลึงก็จะโดนตัดไปด้วย
ซึ่งฝนเพิ่งตกใหม่ๆ แบบนี้
แหม... คุณเอ๋ย ถ้าได้ลองยอดตำลึงวัยขบเผาะแล้วจะติดใจ
"ดูให้ดีหน่อยนะ ตอนนี้ไม่รู้มีหญ้ามาจากไหน มันเลื้อยเหมือนตำลึงเลย"
นั่นคือคำเตือนจาก "พ่อ" ผู้มอบหมายภารกิจ
ผมออกไปเก็บตำลึงแต่เช้า ด้วยความไม่ชะล่าใจ
คราวนี้ใส่เสื้อแขนยาวกางเกงขายาวเพื่อกันยุงกัดเต็มยศ
(ยุงบ้านผม ตัวใหญ่มาก จิ้มทีแขนเป็นรูอ่ะ)
ผมพบว่า ท้ายไร่มีไม้เลื้อยขึ้นค่อนข้างพอสมควร
ที่สำคัญใบมันก็คล้ายๆตำลึงซะด้วยสิ แต่ก็ไม่แน่ใจ
จะลองกินดูก็ไม่กล้า
จะกลับไปถามพ่อ พ่อก็ไปวัดทำบุญแล้ว
ก็เลยลองเก็บไปก่อน
ยิ่งเก็บยิ่งพบว่ามันมีเยอะมาก
ยิ่งเก็บยิ่งเกิดความไม่แน่ใจว่ามันคือตำลึงขึ้นเรื่อยๆ
จนกระทั่ง
ณ ใต้ร่มเงาของมังคุดต้นหนึ่ง
ผมพบต้นอะไรซักอย่าง (ที่ผมเก็บไปแล้วครึ่งหม้อ) กับ
ต้นอะไรอีกซักอย่างที่เห็นปุ้บ รู้เลยว่า "ตำลึง" แน่นอน
ผมคว่ำหม้อทิ้งโดยไม่ลังเล
และเริ่มต้นเก็บยอดและใบตำลึงอ่อน
มีอยู่ที่หนึ่ง ที่เจ้า 2 ต้นนี้ขึ้นอยู่ด้วยกัน
เรียกว่าพันกันกลมเลย
ใบอ่อนของมันทั้งคู่ไม่ค่อยต่างกันนัก
จึงต้องใช้วิธีดูจากใบแก่ แล้วไล่เถาว์ไปหายอดอ่อน
บางที่เจ้าหญ้าชนิดนั้นมันพันต้นไม้ได้ จนทำให้ไม้ถูกโน้มกิ่งลงมา
น่ากลัวว่ากิ่งจะหักได้ แต่พอพยายามจะดึงมันออก
มันเหนียวใช้ได้เลยครับ
ผมเก็บอยู่อีกซักพักหนึ่ง ก็พบกับดงตำลึงที่แผ่คลุมพื้นดินอยู่
นั่นทำให้ภารกิจผมเสร็จเร็วขึ้น
ผมกลับบ้านพร้อมด้วยยอดอ่อนตำลึงหม้อใหญ่
และบทเรียนจากการเก็บตำลึงเช้านี้...
คนเราก็เหมือนหญ้าและตำลึง มีดีมีเลวปะปนกันไป
จะกำจัดคนไม่ดีโดยไม่ให้กระทบคนดี เป็นเรื่องที่ไม่ง่าย
ยิ่งโดยเฉพาะตอนยังเด็ก ยิ่งดูยากว่าใครดีใครเลว
สิ่งที่เราทำได้ คือ แยกแยะ และเลือกที่จะรักษาคนดีๆ ไว้กับเรา
คนแบบต้นหญ้านั้นชอบตะกายฟ้า สูงขึ้นได้ด้วยการดึงคนอื่นให้ต่ำลง
เหยียบและทำลายผู้อื่นเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง
(แถมหนังเหนียวตายยาก)
คนพวกนี้ชอบมี option เยอะ เหมือนหญ้าที่มีใบเเน่นเต็มไปหมด
ที่สำคัญ นิสัยของคนแบบนี้แพร่กระจายได้เร็ว
คนแบบตำลึงเรียบง่าย สมถะ เลื้อยไปกับดิน
มีใบน้อยแต่มีใบใหญ่ (บางใบใหญ่เท่าฝ่ามือผมเลยนะ)
ขยายตัวไม่เร็ว ไม่หวือหวา โตไปเรื่อยๆ
แต่... ตำลึงกินได้ และมีประยชน์
เราไม่จำเป็นต้องไปตัดสินว่าใครเป็นหญ้าเลื้อย
หรือใครเป็นตำลึง
เพราะในที่สุด คนเราก็จะแสดงนิสัยถาวรออกมาในที่สุด
และก็ต้องได้รับผลแห่งการกระทำของตัวเองกันไป
แต่ตอนนี้ ผมขอรับกรรมหม้อใหญ่ที่ผมลงแรงไปเก็บมาเมื่อเช้าก่อนนะครับ
แกงจืดหมูสับยอดอ่อนใบตำลึงนี่... มันแหล่มจริงๆ ครับพี่น้อง
ขนมหวาน:
ตำลึงจะมีอยู่ 2 แบบ คือ ตำลึงตัวผู้กับตำลึงตัวเมีย ชื่อทางวิชาการอย่าไปจำมันเลยนะครับ
เอาเป็นว่า ตำลึงตัวผู้จะมีสรรพคุณในการเป็นยาระบาย ส่วนตัวเมียไม่มี
วิธีสังเกต ก็คือ ตำลึงตัวผู้จะมีรอยหยักของใบลึกกว่าตำลึงตัวเมีย
และถ้าเห็นต้น ตำลึงตัวเมียจะมีลูกด้วย และพบได้ง่ายกว่าตำลึงตัวผู้
แต่ไม่ว่าจะตำลึงตัวผู้หรือหรือตัวเมีย ก็เป็นผักที่อุดมด้วยวิตามิน หากินง่าย และราคาไม่แพง
No comments:
Post a Comment