Jul 23, 2009

(ไม่) หนี... (แต่ขอทำ)ตามกาลิเลโอ

เมื่อวาน ไปดูหนัง "หนีตามกาลิเลโอ" รอบพิเศษกับทางคณะนิเทศ จุฬาฯ...
ไม่ได้จะมา review หนัง ไม่ได้จะมาเชียร์ แต่อยากให้ดู หนังไทยดีๆ ไม่มีฉากหวือหวาให้สยิวกิ้วอารมณ์ หรือทำได้เพียงเรียกเสียงหัวเราะแต่ไม่เพิ่มรอยหยักให้สมอง เหมือนหนังบางเรื่องที่เพิ่งจะจัดงานฉลองไปไม่กี่วันนี้

เป็นหนังที่โคตรจริง มีความเป็นคนอยู่เต็มเปี่ยมในหนังเรื่องนี้...

เป็นเรื่องปกติ ที่ใครๆก็อยากฟังความจริง แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาอีกเช่นกัน ที่เราจะไม่อยากยอมรับมันหากว่ามันไม่ตรงกับสิ่งที่เราอยากได้ยิน บ่อยครั้ง เราเลือกปฏิเสธที่จะยอมรับความจริง ด้วยการมีเหตุผล ด้วยข้ออ้าง ด้วยการหลอกลวง ด้วยการบอกว่าคนพูดไม่น่าเชื่อถือ ด้วยประสบการณ์ของเราเอง หรือแม้แต่ด้วยการหนี

หนีไปจากคำจริงเหล่านั้น หนีไปจากคนพูด หนีไปจากสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย หนีไปจากโลกด้วยการฆ่าัตัวตาย หรือแม้แต่หนีไปจากตัวเองด้วยการมีโลกส่วนตัว แต่ความจริงก็คือความจริง ไม่มีใครหนีพ้น มันเป็นกฎสากลเหมือนกฎแรงโน้มถ่วงของโลกนี้

ณ หอเอนแห่งเมืองปิซ่า บ้านเกิดของนักวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ตัวพ่อชื่อ กาลิเลโอ เขาทดลองทิ้งวัตถุชนิดเดียวกัน 2 ชิ้น ซึ่งมีขนาด (น้ำหนัก) ไม่เท่ากัน จากความสูงเดียวกัน พร้อมๆกัน เพื่อพิสูจน์ว่า ทฤษฎีของเขาถูกต้อง หากวัตถุทั้งสองชิ้นตกถึงพื้นพร้อมกัน... แน่นอนว่า ทฤษฎีของเขาถูกต้อง แต่ขัดแย้งกับแนวคิดของศาสนจักร ซึ่งทำให้เขา ถูกหมายหัวว่าเป็นพวก "ขบถ" ที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดนับแต่นั้นมา

และอีกครั้งที่เขาสร้างความขัดแย้งกับศาสนจักร เมื่อประกาศสนับสนุนแนวคิดว่า โลกไม่ใช่ศูนย์กลางของจักรวาล แต่เป็นดวงอาทิตย์ต่างหาก คำประกาศของเขาหักล้างความเชื่อที่ ศาสนจักร เพียรพยายามส่งเสริมชนทั้งหลายให้เชื่อว่า จักรวาลนี้มีโลกเป็นศูนย์กลาง ลงอย่างสิ้นเชิง

และนั่นจึงนำภัยมาสู่ตัวเขา ศาสนจักรเห็นเขาเป็นตัวอันตรายที่ต้องจัดการในทันที เขาถูกสั่งขัง สูญเสียอิสรภาพทางกาย และต้องมีชีวิตลำบากเป็นอย่างมากตลอดชั่วชีวิตของเขา

บางคนเลือกที่จะหนีความจริงว่าตัวเองผิด ด้วยการโทษความห่วยแตกของสังคมคนรอบข้าง โยนขี้ให้คนอื่น และ (หนี) ไปจากสังคมนั้น
บางคนเลือกจะหนีความบกพร่อง/ความอ่อนแอของตัวเอง ด้วยการ เปลี่ยน สภาพแวดล้อมที่ตัวเองอยู่เสียใหม่

แต่โลกนี้มักเต็มไปด้วยเรื่องตลกร้ายกาจที่คาดไม่ถึง บทเรียนแห่งชีวิตที่เราสอบไม่ผ่าน จะวนกลับมาหาเราเสมอ ไม่ว่าเราจะ หนี ไปที่ไหน หรือ ด้วยรูปแบบใด เพื่อช่วยเราให้ไปถึงยังปลายทางแห่งการเรียนรู้ในเรื่องนั้นๆได้ แม้จะด้วยราคาและรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป

ไม่ว่าเราจะเลือกยืนหยัดต่อความจริงเหมือนกาลิเลโอ หรือโอนอ่่อนนั่งทำใจอยู่ไปวันๆ เป็นดั่งคนตายที่รอเพียงเวลาหมดลมหายใจ ความจริง ก็คือ เราไม่ใช่ศูนย์กลางของโลกใบนี้ ทุกความล้มเหลว ทุกความผิดพลาด เรามีส่วนร่วมรับผิดชอบไม่มากก็น้อย เราไม่สามารถปัดความรับผิดชอบของผลที่เกิดขึ้นได้ ไม่มีใครทำอะไรเราได้ ถ้าเราไม่ทำตั้งแต่แรก

หากเราไม่กล้ายอมรับความจริง สิ่งที่เรารู้สึกจริงๆ สิ่งที่เราเชื่อจริงๆ หรือแม้แต่ความผิดที่เราทำไว้จริงๆ เราก็จะไม่เปลี่ยนแปลงจริงๆสักที ต่อให้เปลี่ยนสิ่งนอกตัวไปเท่าไหร่ เราก็จะยังไม่เข้าใจ บางทีอาจต้องใช้เวลานานนับร้อยปีเหมือนที่กว่าคนจะยอมรับว่าโลกไม่ใช่ศูนย์กลางของจักรวาล เราจึงจะเข้าใจว่า เราเองเป็นเพียงส่วนหนึ่งของโลกกว้างๆใบนี้ เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้นอกจากเปลี่ยนตัวเองก่อน และเราจะไม่สามารถเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์แห่งมนุษยโลกได้เลย หากไม่กล้ายืนหยัดต่อความจริงที่เราพบ เชื่อ และรับไว้

ใครจะหนีตามกาลิเลโอ ยกมือขึ้น !!!

2 comments:

  1. เออ
    วันที่เราเจอความจริงที่เราไม่ยอมรับวนกลับมาสอนเรา
    มันเจ็บปวดจริงๆ ว่ะ

    ReplyDelete
  2. หนี ... ตามกิ๊ก .... ดันเจอแฟน

    หนี ... ตามแผน ... ดันเจอเจ้าหนี้

    หนี ... ตามทัคกี้ .... เจอหมายศาล 55555

    ReplyDelete