เมื่อคืนคุยกับพ่อตามกระแสวันพ่อที่เพิ่งผ่านไป
คุยกันเรื่องเดิมๆ เมื่อไหร่จะเรียนจบ เสียเวลามาเยอะแล้ว ทำงานเลี้ยงตัวให้ได้ ไม่จำเป็นต้องรวย เรื่องเมียไม่ต้องรีบ คราวนี้มีเพิ่มมานิดหน่อย เรื่องการใช้และสะสมบุญบารมี
แต่แม้จะเรื่องเดิมๆ เมื่อคืนคุยกันสนุกมาก
พ่อเล่าให้ฟังถึงเพื่อนผมสมัยประถมแถวบ้านหลายคน เขาต่างทำงาน แต่งงาน มีลูกกันหมดแล้ว พ่อว่าสมัยก่อน จะมีลูกซักคน เขาว่าต้องมีเงินซัก 3 ล้าน เพื่อนผมแถวบ้านคนหนึ่ง มีลูก 2 คน รวมเงินใช้เองผัว-เมียด้วย ก็ไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน พ่อถามว่า “มึงทำงานได้ปีละเท่าไหร่” กะด้วยสายตาคร่าวๆ ราวๆ แสนต้นๆ “มึงตามหลังเขาอยู่ 10 กว่าปี” พ่อพูดต่อ “ถ้าเป็นคน 10 ปีนี่ 1 ศตวรรษ มันคนละยุค คนละสมัย คุยกันคนละภาษาแล้วนะ” “แล้วยังงี้ มึงยังจะบอกว่ามึงไม่ล้าหลังอีกเหรอ”...
ผมนึกถึงข่าวในหนังสือพิมพ์ที่เคยอ่านตั้งแต่ยังเด็กๆ ถ้าจำไม่ผิด เขาว่าเมื่อก่อน ในแถบเอเซียน ใครๆก็ตามประเทศไทยกันหลักสิบปีทั้งนั้น เราทิ้งห่างสิงคโปร์ มาเลเซีย อยู่หลายสิบปี จนสูสี จนตอนนี้ เขาทิ้งเราไปไหนต่อไหนแล้ว เวียดนาม ที่เคยอยู่คนละชั้นกับเรา ดูเหมือนว่าก็กำลังหายใจรดต้นคอเราเข้ามาเรื่อยๆ และถ้าเข้าใจไม่ผิด พม่า กับ เขมร ก็กำลังเตรียมตัวเทียบชั้นเราอยู่ โดยเฉพาะรายหลังนั้น ถึงขั้นเชิญนักโทษชายของไทยไปเป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจเลยทีเดียว
ผมไม่ได้บอกว่าประเทศไทยไม่ได้พัฒนา เพียงแต่ผมคิดว่าเราพัฒนาขึ้นน้อยมาก โดยเฉพาะหากเทียบกับความทันสมัยที่มากขึ้นของบ้านเมืองในช่วง 20 ปี ที่ผ่านมา
ผมคิดว่า อาจเป็นเพราะเราเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่เพิ่มค่าไม่ได้มากกว่าสินทรัพย์ที่เพิ่มค่าได้
ในวิชาเศรษฐศาสตร์ มีเรื่องหนึ่ง ชื่อว่า กฎทองของการสะสมทุน (Golden rule Level of Capital) ใจความโดยสรุปง่ายๆ ก็คือ เมื่อคนรุ่นเรา (เสียสละ) ใช้เงินน้อยลง ทำให้ความพอใจของเราจากการบริโภคลดลง แต่เราจะลงทุนได้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้คนรุ่นลูกได้ผลตอบแทนจากการลงทุน ทำให้เขามีเงินใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งจะสร้างความพอใจให้เขามากขึ้น และถ้ารุ่นลูกทำเหมือนเรา รุ่นหลานทำเหมือนเรา... สินทรัพย์ก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกรุ่น รุ่นต่อรุ่น
“จงรักลูกหลานเหมือนรักตัวเอง”
โดยส่วนตัว ผมเชื่อว่า คน เป็นมากกว่าทรัพยากรทางเศรษฐกิจ แต่ผมยอมรับว่า คน เป็นสินทรัพย์ที่คุ้มค่าที่สุดในการลงทุนระยะยาว
ถ้าหากดูจาก สิงคโปร์ ประเทศเพื่อนบ้านที่หลายคนมักหยิบยกมากล่าวถึงชื่นชมในความทันสมัย เขาใช้เวลาในการพัฒนาประเทศ ประมาณ 50 ปี โดยเริ่มต้นจากการพัฒนาคุณภาพชีวิต ความสามารถ และความคิดของคน...
ต้นไม้แต่ละชนิด ย่อมมีระยะเวลาและวิธีในการเพาะเมล็ดแตกต่างกันฉันใด ชีวิตคนเราก็มีช่วงระยะเวลาและวิธีการในการบ่มเพาะชีวิตแตกต่างกันฉันนั้น
หากเมล็ดนั้นถูกเพาะลงดินแล้ว ก็ไม่ต้องกังวลใจ แต่หากวางไว้บนทิชชูชุ่มน้ำ รอเป็น 100 ปี ก็คงไม่งอกขึ้นมา เว้นแต่จะเป็นเมล็ดถั่วงอก !!
วันนี้ ผมได้เจอที่ของผมแล้ว ชีวิตของผมได้รับการปลูกลงแล้ว วันหนึ่งมันจะออกดอกออกผลให้เก็บเกี่ยวแน่ ไม่รู้ว่าจะทันในช่วงรุ่นอายุผมหรือเปล่านะ หรือต้องรอถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน
แต่หวังว่า อย่างน้อยมันจะได้ทันแตกยอดอ่อนในรุ่นอายุพ่อของผม
ทันให้ท่านได้เห็น ทันให้ท่านได้ภูมิใจ
Last night, I had talked with my dad in the same topics as every time, but this time, it’s very funny.
ReplyDeleteHe told me about many my neighborhood friends that worked, married and have babies already. He told that in his time a baby costs 3 MB. One of mine has 2 kids plus with their own costs, it might not less than 10 MB. “How much you can make income a year?” my father asked, around 100 thousands, “ you follow her more than 10 years” my father said also. “How dare you boast that you are not laggard?”
I was thinking about newspaper, which I had read when I was young. In ASIAN, Thailand is the leaded country. We leaded others more than 10 years. Singapore and Malaysia were chaser but now they’ve drawn ahead us so far. Vietnam is coming up. Burma and Khmer is preparing to compete with us, especially the last one, they’ve invited our prisoner to be their economic consultant!!
I don’t say that Thailand isn’t development. It’s just less than its modernity. Might cause we invest in COSTED assets not in valuable assets.
I believe Human be more than economic resource but it’s worthy to invest in long run.
Singapore took time around 50 years for improve their country, they initiated with quality of people’s life, their ability and their thought.
Each tree needs time and method to grow differently as each one’s life.
Don’t worry if our seed is planted in the ground. But if just put on a wet tissue, 100 years waiting, you never will see anything except you are mung bean!!
Thanks God, I found my place. I’ve been plant. One day, I will have offspring absolutely. I don’t know when, it might be my next generation
However, I hope my plant will shoot in time of my father, which makes him be proud.