Jan 4, 2010

ยัด "สั่น" แน่น พูน ล้น

เวลามีคนมา ยัดเยียด อะไรสักอย่างให้เรา
เราคงรู้สึกไม่ชอบใจ ไม่สบายใจ อึดอัด ไม่อยากจะรับไว้
ส่วนใหญ่ก็เพราะเราไม่อยากได้
จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เรา "คิด" และ "มอง" ว่ามันไม่เหมาะกับเรา เราไม่ควรจะได้รับสิ่งนั้น

เวลามีคนมา เขย่า เรา
เราก็มักจะรู้สึก ไม่ชอบใจ ไม่สบายใจ เจ็บ
รู้สึกถูกละเมิด ถูกรบกวน ความมั่นคงในจิตใจถูกสั่นคลอน
ไม่มากก็น้อย เรารู้สึก กลัว (จนตัว "สั่น")

แล้วเรารู้สึก แน่น เวลาไหนบ้าง
ใช่เวลาที่เราได้อะไรสักอย่างมากกว่าความสามารถของเราที่จะรับไว้ได้หรือเปล่า
หรือไม่ก็เป็นเวลาที่ตัวเราเองมีขนาดใหญ่กว่า ภาชนะ / สิ่งรอบตัวภายนอก ซึ่งไม่สามารถรองรับเราได้
แต่ที่แน่ๆ เราจะรู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจ ไม่สบายตัว
เกิดภาวะไม่เข้ากันได้อย่างดี (ภาษาเศรษฐศาสตร์ เรียกว่า เสียดุลยภาพ)

ซึ่งไม่ว่าจะเกิดจากกรณีไหน ก็จะมีการปรับตัวเกิดขึ้น
ถ้าเราไม่ขยายตัวเราเองออก
เราก็ต้องลดขนาด (ตัว, ใจ, ฝัน, ความคิด) ของเราลง

หรือต้องไปเปลี่ยนสิ่งรอบตัวภายนอกให้เข้ากับเรา
หลายคนชอบแบบนี้ ชอบคิดเอาเอง (โดยไม่รู้ตัว) ว่า โลกหมุนรอบตัวฉันเอง
ชอบเปลี่ยนคนอื่นให้เข้ากับตัวเอง เนื่องจากเข้าใจว่าตัวเองสูงส่งกว่า
บางคนเป็นหนักถึงขั้นหลอกลวงคนอื่น ด้วยความฝันลมๆแล้งๆ ด้วยความหวังดีที่โอบอุ้มคนอื่นให้รู้สึกมั่นคง
เป็นการยัดเยียด ความกลัว อย่างเนียนๆให้กับผู้อื่น ซึ่งมักถูกห่อหุ้มไว้ในรูปแบบของ ความรัก การยินยอม การเชื่อฟัง และความปรารถนาดี
.
.
.

ผมรู้จักกับ ยัดสั่นแน่นพูนล้น ครั้งแรกจากพระคริสต์ธรรมคัมภีร์
เป็น 1 ใน คำสัญญาที่พระเยซูบอกว่า เราจะได้รับการอวยพรอย่างนี้ด้วย เมื่อเราให้ผู้อื่นด้วยท่าทีอย่างนี้

เมื่อก่อนผมเคย (อยู่ในชุมชนที่) เชื่อว่า การอวยพร หมายถึง เรื่องดีๆที่เราได้รับ ทำให้ผมมักจะนึกถึงคำสัญญานี้ในมุมมองของเรื่องดีๆเท่านั้น แต่หลังจากเผชิญหน้ากับความกลัวของตัวเองอยู่พักใหญ่ ลองกล้าทำในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ ผมเลือกเดินบนเส้นทางของพระเจ้าที่ผมรู้จัก

ผ่านไป 5 เดือน นับตั้งแต่ที่ย้ายออกมาจากรากฐานความเชื่อเดิม
เมื่อมองย้อนกลับไป ผมได้เรียนรู้เรื่องเดิมๆ ในมุมมองใหม่ๆที่กว้างขวางขึ้น

ผมเห็น สิ่งดี จาก สิ่งร้าย ที่พระเจ้า "ยัด" ใส่ให้
ผมเห็น ความแข็งแรง ได้รับการสร้างขึ้น หลังจากพระเจ้า "เขย่า" ผม จนสั่น
ผมเห็นการขยายออกของชีวิตตัวเอง หลังจากที่ผมรู้สึก "แน่น" หลังจากผมเลือกแก้ไขปัจจัยที่ผมสามารถควบคุมได้ คือ เปลี่ยนแปลงตัวเอง

ผมรู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น
ผมมีโอกาสทำในสิ่งที่สนใจ และไม่ทำในสิ่งที่ไม่สนใจ (อย่างปราศจาก แรงกดดัน (จากสังคม))
ความฝันได้รับการเติมเต็ม และเป็นจริงเป็นจังมากขึ้น เห็นการสนับสนุนจากพระเจ้ามากขึ้น
ความคิดเป็นเหตุเป็นผล สมจริงสมจังมากขึ้น
ยอมรับความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองได้ง่ายและเร็วขึ้น
ผมรู้สึกว่า ผมเป็นมนุษย์มากขึ้นนะ

เริ่มเข้าใจมากขึ้นว่า
ทำไม เมื่อก่อน เราถึงมีปัญหากับ "การเจริญเติบโต" นัก
มันแทบจะเป็นวาระแห่งชาติของชุมชนที่ผมเคยอยู่เลยทีเดียว
ทั้งที่เราให้ความสำคัญขนาดนั้น แต่ดูเหมือนว่าจะ "ไกลเท่าเดิม"

คำตอบง่ายๆ ก็คือ เราหลีกเลี่ยง / ไม่ยอมรับ ความเจ็บปวด
ไม่ยอมถูก ยัดๆๆ เขย่าๆๆ สั่นๆๆ ตบ บีบ ทุบ อัด กระทืบ ให้ แน่นๆ

เราอาจเจ็บปวดโดยไม่เติบโตได้ แต่ชีวิตเราจะเติบโตขึ้น โดยไม่เจ็บปวดไม่ได้

ผมรู้สึกว่าตอนนี้ ชีวิตของผมกำลังได้รับการเติมจากพระเจ้า
สุขภาพอนามัยเริ่มดีขึ้น
ผมทำงานมีเงินเก็บ มีเงินให้พ่อกับแม่ (เป็นครั้งแรกในชีวิต)
พูดคุยกับพ่อแม่พี่และญาติได้อย่างสนิทสนมกัน กล้าแสดงจุดยืนความเชื่อของตัวเองด้วยความเคารพ
อ่านหนังสือจบเล่มและนำมาใช้ในชีวิตจริงได้ด้วย
เข้าใจหลักเหตุผลในตำราเรียน
เข้าอกเข้าใจความรู้สึกและความคิดของคนอื่น โดยไม่ต้องคิดเอาเองก่อนว่าเขาจะคิด/รู้สึกอย่างไร
เอื้ออาทรคนอื่นมากขึ้น คิดเห็นแก่คนอื่นมากขึ้น
ไม่เพียงรู้จักว่ารักคืออะไร แต่ผมรักคนอื่นได้จริงๆ
ที่สำคัญ ผมรู้สึกว่า
ผมสนิทกับพระเจ้า และกลับมาเป็นกันเองกับพระเจ้า
เหมือนเมื่อรู้จักกันใหม่ๆอีกครั้ง

มีคนเคยสอนว่า
เราต้องการอะไร ต้องจ่ายราคา ต้องรู้จัก ให้และเอา (give & take)
แต่ผมเชื่อว่าพระเจ้าสอนมนุษย์ให้รู้จัก ให้แล้วได้รับ (give, then be given)
ถึงแม้ว่าบ่อยครั้ง สิ่งที่ได้รับนั้น จะไม่มีอะไรมากไปกว่าคำว่า ความสุข

ในขณะที่ผมกำลังเรียนรู้การให้ชีวิตของตัวเองจากคนที่ให้ชีวิตของตัวเองแก่ผู้อื่นมาแล้ว ซึ่งจริงๆแล้วผมเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ได้รับชีวิตจากเขาด้วยนั้น ผมเองก็ได้รับด้วย

ยิ่งเราได้รับมาก ยิ่งสำนึกว่าเราได้รับมาเปล่าๆ โดยปกติ เราก็น่าจะยิ่งให้ได้ง่ายๆนะ (ว่าไหม?)
และยิ่งเราให้พระเจ้า เราก็ยิ่งได้รับจากพระองค์ (จริงๆ น๊า)

ยังเหลือคำกริยาอีก 2 คำ ที่ผมจะได้รับการอวยพรจากพระเจ้าตามพระสัญญาของพระองค์

เชื่อกันต่อไป เพราะวันนี้ สิ่งที่ได้รับมาแล้วนั้น ยังมองไม่เห็น

แต่ที่แน่ๆ... อะแฮ่ม "พูน" "ล้น" แน่นอนครับ

2 comments:

  1. ดักแด้ใกล้จะเป็นผีเสื้อแล้วล่ะสิ ... ยินดีด้วย

    (ถ้ายังอยู่แบบเดิมๆ รับรองว่าจะเป็นหนอนไปจนตาย 555)

    ReplyDelete
  2. Press, Shake, Full, and Running over


    Whenever we’re pressed down, we might frustrate. We usually think it’s not appropriate with us. We’re not deserved.

    Whenever we’re shaken. We might be not satisfied, be interfered, hurt and insecure. Of cause, we fear!

    When you will be full? For you might get something more than you can hold it or you’re bigger than the box or others surrounded you. Surely you shall be uncomfortable and unfit. (In economic term, in-equilibrium)

    For any cause, it has changing.
    If we don’t shift upward ourselves or enlarge our life, we have to shift downward or limit our own strength, heart, dreams and thought instead.
    Or else, we might shape the environment or others to suit with us, which one of the most popular way.

    Many usually like to think (involuntarily) that they are center of the world. They try to convince others cleverly to admire and accept their ideas. They might believe that they are better than the others.

    Worse, someone deceive others to follow him with dreams that never been come true, with action of caring that made people feel safe and secure. They push fear into others smoothly with the package of love, commitment, obedience and warm welcome.

    First time that I’ve known “press down” “shaken up” and “run over”, from the Holy Bible. It’s one of the Jesus’ promising, which says that we will be given as same as how we give to the others.

    Once, I had believed that blessing is mean only getting something good. It made my view for this promise only in good area. But after I faced my fear for a big period, I try to stand for my belief. I’ve chosen the way of God whom I’ve known.

    For 5 months since I’ve moved from those whom have the same foundation with that I had committed to the new church.

    When I look backward, I’ve learned from the happenings with my new worldview.

    I can see ‘Good thing’ from bad thing, which God pressed me down.
    I can see my ‘strength’ has been built after God shook me up.
    I can see my life has been enlarged after I was full and chose to change what I can control, myself.

    I feel I be myself more
    I can focus more on what I interest and ignore what I’m not without any (social) sanction.
    Dream be fulfilled and figured. How excite when you be supported from the Above!!
    Be rational and realistic more.
    Not only know what love is, but also I can love.
    I think I am a man more.

    I understand more why we (I mean my old place) had the big problem about “GROWTH”. It almost was the great majority agenda at there. We had given it the top priority but it’s still kept distance on us.

    The simple answer is because we avoid or deny any pain.
    Insusceptibly, we’ve refused to be pressed down, shaken up or cut off. We always try to play safe.

    We might hurt without growth, but we can’t grow without pain.

    Someone said, if you want something that means you have to learn how to “give and take”. But I believe that God teach us to give, then we will be given. Although, frequently the only one, which be given is happiness.

    While I’m learning how to give my life from whom given His life already, which truly I’m one who received, I’m given too.

    As more be given, made more realize that it’s free. Normally, we should give to others easier, right? Obviously, God will provide to us in return as much as we give to Him.

    I still have one verb left, which will receive God’s blessing according to His promise.
    Keep on faith, for today we haven’t seen yet what we have been given already.

    However, ho ho, absolutely “running over”!!!

    ReplyDelete