ใครๆก็ชอบพูดว่า ผมเป็นคนมีศักยภาพ
ใครๆก็ชอบพูดว่า ผมตั้งใจดี
ใครๆก็ชอบพูดว่า ผมไม่เป็นโล้ไม่เป็นพาย
ใครๆก็ชอบพูดว่า ผมทำงานช้า ทำงานไม่เป็น
ใครๆก็ชอบพูดว่า ผมชอบทำตามใจตัวเอง
ใครๆก็ชอบพูดว่า ผมไม่ยอมโตซะที ไม่มีความรับผิดชอบ
ใครๆก็ชอบพูดว่า ผมเจ้าชู้ ชอบหว่านเสน่ห์ให้สาวๆ
ใครๆก็ชอบพูดว่า ผมเป็นคนไม่มีอนาคต
ใครๆก็ชอบพูดว่า ผมเป็นพวกท่าดีทีเหลว เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ
ใครๆก็ชอบพูดว่า มันช้าไปแล้วที่ผมจะเริ่มต้น หรือ ประสบความสำเร็จได้
ใครๆก็ชอบพูดว่า ผมช่างฝัน ไม่อยู่ในโลกความเป็นจริง
และอื่นๆอีกมากมาย...ที่คนเขาชอบพูดถึงผมกัน
มีไม่กี่คนที่จะเดินมาพูดกับผมตรงๆในประเด็นข้างต้น
ส่วนใหญ่คนที่มาพูด ก็จะมาพร้อมประโยคที่บอกว่า ฉัน/พี่/ผม รู้จักอาร์ทธจริงๆ รักนะเนี่ย เป็นห่วงหรอก ถึงได้บอก
ผมรู้สึกซาบซึ้งใจในความรัก ความห่วงใย (อาจจะมีบ้างที่เขาสมเพชผม) อุตส่าห์มาบอกเล่าสิ่งที่เป็นห่วงให้ผมรู้สึกสำนึกตัวเอง
.
.
.
ผมไม่รู้หรอกนะว่า คนเขาเห็นอะไร เขาถึงบอกว่าผมมีศักยภาพ แล้วไอ้ศํกยภาพนี่หน้าตามันเป็นยังงัย แต่ผมก็ชอบคำนี้นะ ถึงขนาดเอามาตั้งชื่อตัวเอง ก็คงชอบจริงๆ แต่จะดีกว่านี้นะ ถ้าศํกยภาพที่ผมมี ที่ใครๆเขาก็เห็นกัน เขาจะช่วยผมเปลี่ยนมันให้เป็นความสามารถ
แล้ว ไอ้ความตั้งใจดีเนี่ย คืออะไรเหรอ จะรู้ไหมว่า ผมไม่ได้เป็นคนมีความตั้งใจสูงส่งอะไรนัก ชีวิตนี้ที่มีก็อยากใช้ให้ดีที่สุด ผมคงไม่พูดว่า ผมจะมีผลกับคนทั้งโลก แต่ก็คงไม่เห็นแก่ตัวจนไม่คิดจะทำอะไรเพื่อคนอื่นเลย คนเราเกิดมาร่วมโลกใบเดียวกัน จะดีจะชั่วยังงัย เราก็เป็นคนเหมือนๆกัน มีอะไรช่วยได้ก็ช่วยกันไป พระเจ้าก็ยังทรงให้ฝนตกแก่ทุกคน
ถ้าเห็นว่าผมเป็นคนตั้งใจดีจริงๆก็ขอบคุณ แต่จะดีกว่านี้ ถ้าช่วยให้ผมทำสิ่งที่ผมตั้งใจไว้ให้สำเร็จได้ด้วย
จริงๆแล้วผมน่ะ รักสบายจะตาย ในงาน 1 ชิ้น ผมไม่ใช่คนที่จะทุ่มเททำกับมันอย่าง หมด แรงโดยไม่จำเป็น งานทุกอย่าง มันมี จุดวิกฤต มันมีเรื่องสำคัญ มีเรื่องที่ยากจริงๆ ถ้าทำถูกจุด ป้องกันได้ งานเสร็จเร็ว ปัญหาไม่เกิด แต่แน่นอนว่า คงต้องใช้เวลาบ้างในการทำความรู้จักกับงาน นายเก่า เคยสอนเอาไว้ว่า speed and reliable, not slow but sure มันเป็นศิลป์ในการทำงานระหว่างความเร็วและผลงาน ชีวิตคนเรามีหลายเรื่อง หลายอย่าง โลกนี้กว้างนัก มีเรื่องให้เราเลือกทำได้เยอะแยะมากมาย ขอโทษจริงๆ ที่ผมสนใจเฉพาะเรื่องที่ผมสนใจ และประณีตกับงานที่ผมทำ ขอโทษจริงๆที่ความเร็วในการก้าวของผมเป็นพวกม้าตีนปลาย
ขอโทษจริงๆที่ผมไม่มีความสามารถบอกเล่าสิ่งที่ผมคิดให้คนอื่นเข้าใจได้ทั้งหมด ผมคิดแค่ว่าหากผมทำเสร็จ วันหนึ่งหลายๆคนคงเข้าใจ อีกหลายคนคงได้รับการหนุนน้ำใจ และอีกหลายคนคงเห็นแบบอย่างในการใช้ชีวิต แต่ดูเหมือน ผมจะไม่มี โอกาส ที่จะทำมันให้เสร็จล่ะมั้ง
ที่ผ่านมา ผมพยายามมาก พยายามเป็นคนดี พยายามเชื่อฟัง (ในสิ่งที่ผมไม่เชื่อ เเละผมคิดว่าไร้สาระมาก) แต่ดูเหมือนทั้งหมดทั้งสิ้น ก็คงจะเป็นได้แค่ความตั้งใจดีๆในสายตาของใครๆ และก็เป็นผมเองที่ต้องรับผลที่เกิดขึ้นตามมา เพียงลำพัง
สุดท้าย ไม่ว่าจะอย่างไร ผมก็โดนมองไม่ดีอยู่แล้ว พระเจ้าก็ไม่เคยได้รับเกียรติผ่านชีวิตผมอยู่แล้ว
หากยังคงคิดเหมือนเดิม ทำเหมือนเดิม อนาคตที่มีแน่ๆ ท่าทางจะไม่มีแน่เหมือนที่ใครๆชอบพูดกัน ถ้ามัวแต่จะทำให้ถูก ให้คนอื่นๆพอใจ ท่าทาง พ่อแม่ผมคงไม่ได้รู้จักพระเจ้าแน่ ความรักที่ผมมีให้กับผู้หญิงคนเดียว ก็คงต้องจำใจถูกกระจายให้คนอื่นอย่างเสมอภาค ชีวิตก็คงแวดล้อมแต่คนที่เป็นเด็ก แคระแกรนบิ้วเบี้ยวไม่สมประกอบอย่างนี้อยู่เรื่อยไป
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เป็นตัวของตัวเองในการทรงสร้างของพระเจ้าดีกว่า (อยากเห็น โลกแห่งความจริงใช่ไหม เด่วจัดให้ เหอเหอเหอ)ใครเขาจะพูดอย่างไรก็คงห้ามเขาไม่ได้ แต่จากนี้ ก็คงต้องเจอแรงเสียดทานอีกแยะเยอะแน่ๆ เอาเถอะ ขอแค่วันสุดท้ายแค่คนเดียว พูดกับผมว่า "ดีแล้ว เราพอใจเจ้ามาก" ก็พอละ
อ่านบทความนี้แล้วรู้สึกพี่มีอิสระขึ้นนะ
ReplyDeleteอย่างที่บอกแหละ ขอแค่คนเดียวก็พอแล้ว
อย่าให้อะไรอะไรอะไรมากดดันจนไม่มีสันติสุขเหมือนหมี่เลย
เหอะเหอะ
กดดันตัวเองทั้งนั้นแหละ