สงกรานต์ปีนี้ ได้กลับบ้านไปนอนผึ่งพุงอย่างสบายกาย ยิ่งไปกว่านั้น ได้พูดคุยกับพ่อและแม่อย่างเต็มที่ในหลายๆเรื่องของชีวิต
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเราเป็นผู้ใหญ่ขึ้นหรือเปล่า แต่สัมผัสได้ว่าพ่อกับแม่รวมทั้งป้าไว้ใจเรามากขึ้น สุดท้ายก่อนกลับ ก็ได้คุยกันเรื่องทรัพย์สิน สรุปความว่า พ่อให้เราดูแลเอาเอง อยากทำอะไร เมื่อไหร่ ก็คิดเอา เลือกเอา อยากรู้อะไรก็มาถามได้
รู้สึกภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก... มันตื้นตัน ที่พ่อเชื่อว่าเรารับผิดชอบได้
มานั่งๆคิดดู ดูเหมือนจะไม่กี่ครั้งที่เรากับพ่อได้นั่งคุยกัน แบบลูกผู้ชายคุยกัน มีสิ่งดีที่พ่อเคยสอนไว้หลายอย่าง เท่าที่จำได้ ก็เช่น
- มี 4 อย่าง ห้ามเด็ดขาด สำหรับผู้ชาย ได้แก่ สุรา นารี พาชี กีฬาบัตร (อันนี้ ถูกสอน ตั้งแต่ตอนเข้ามาเรียนม.1 ที่กรุงเทพใหม่ๆ)
- เกิดเป็นคนต้องสู้คน (อันนี้ ถูกสอนตอน เป็นเด็กๆ อนุบาล / ประถมต้นก็ไม่รุ จำได้แต่ว่า โดนเพื่อนแกล้ง ร้องไห้กลับบ้านแทบทุกวัน)
- ข้าวของของใช้ ไม่มีเองก็ไม่ต้องใช้ อย่าไปยืมเขา (พ่อบอกว่า การหัดยืมของคนอื่นมาใช้ จะเสียนิสัย กลายเป็นคนมักง่าย ไม่วางแผน ไม่รู้จักบังคับตน ซ้ำร้ายคนอื่นเขาจะหาเรื่องว่าเราได้)
- คนเราต้องรู้จัก "กาล" และ "เวลา" (พ่อแปะ คำคมไว้หลังรถ 2 ประโยค ดังนี้ "ช้าเสียการ นานเสียกิจ" "ช้าๆได้พร้าสองเล่มงาม") ชวนให้นึกถึง ดร.เทียม โชควัฒนา ท่านก็เคยสอนในเชิงนี้ว่า ให้รู้จักเวลา เวลาใดควรเร่งก็ต้องเร่ง เวลาใดควรช้าก็ต้องช้า
- ทุกคนมีโอกาส แต่อย่าใช้เปลือง เพราะมันจะหมด (คนที่ไม่ได้ใช้โอกาสอย่างคุ้มค่า ก็จะเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือ โดยปริยาย นานๆเข้า คนเขาก็ไม่เชื่อถือ ไม่ให้โอกาส)
- คนเรา ถ้าขยัน ไม่อดตาย, ถ้าอยากรวย ก็ต้องฉลาด และถ้าอยากร่ำรวยอย่างมีความสุขด้วย ต้องเป็นคนดี
- เงินอยู่ที่คน คนอยู่ที่ไหน เงินอยู่ที่นั่น
- ทำงาน/ค้าขายกับใคร เอากำไรแต่พอดี ให้เขาอยู่ได้ให้เราอยู่ได้ เราอยู่ได้แต่เขาอยู่ไม่ได้ สุดท้ายเราก็ไปไม่รอด
- ต้นไม้ออกผลตามฤดูกาล หมดเวลา มันก็หยุด คนโลภ ไปเร่งปุ๋ย เร่งดอก ไปฝืนธรรมชาติ สุดท้ายมันก็โทรม ตายก่อนวัยอันควร เหมือนคนเรา กลางวันทำงาน กลางคืนก็ให้พัก เพื่อวันต่อไปจะได้ทำงานได้เต็มที่
- เครดิต ต้องรักษาไว้ให้ดี แม้จะเหนื่อยมาก ก็ต้องรักษาไว้ เพราะมันหมดง่าย แต่สร้างยาก
ฯลฯ
ยังมีอีกหลายเรื่องที่นึกไม่ออก แต่เรื่องนึงที่พ่อดูเหมือนจะไม่เคยสอน (อาจด้วยว่ายังไม่ถึงวัย) แต่ชีวิตของพ่อได้สอนผม นั่นคือเรื่องความซื่อสัตย์และรับผิดชอบในชีวิตครอบครัว
ถ้ายังจำกันได้ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2007 "ครั้งหนึ่งในความทรงจำ...วันแห่งความรัก" ผมเล่าเรื่องชีวิตคู่ของพ่อกับแม่ไปบ้างแล้ว
แต่อีกมุมหนึ่งที่ผม(เพิ่งจะ)เห็นหลังจากแม่เจ็บมา 2 ปีกว่า พ่อเหนื่อยมากๆ พ่อต้องทำงานทั้งในบ้านและนอกบ้าน ต้องพักผ่อนให้พอทั้งร่างกายและจิตใจ มีผู้หญิงหลายคนเข้ามาหาพ่อ ผมคิดว่าเรื่องแรงขับทางเพศนี่เป็นเรื่องปกติของผู้ชายนะ แต่พ่อไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง พ่อยังเป็น ผัว ที่ดีของแม่เสมอ ยังเป็น พ่อ ที่ดีไม่เคยเปลี่ยน
ถึงวันนี้ ผมเข้าใจมากขึ้นว่า ทำไมแม่ถึงรักพ่อ ทำไมการที่พ่อเป็นคนดี ถึงพอเพียงสำหรับผู้หญิงคนหนึ่งที่จะร่วมชีวิตอยู่ด้วย
กลับบ้านครั้งนี้ พ่อพูดมาประโยคหนึ่ง "แม่เอ็งเป็นอย่างนี้ จะให้ทำอย่างไร จะให้ทิ้งเขาไปหรือ"
ผมมานอนๆคิดดู มีนิสัยหลายๆอย่างของผมที่เหมือนพ่อกับปู่มากๆ หวังว่า เรื่องนี้ก็คงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ผมจะเป็นเหมือนกับพ่อของผม... อย่างน้อย ผม ก็ตั้งใจล่ะที่จะเป็นอย่างนั้น
No comments:
Post a Comment