ฟังชื่อเรื่องแล้วอย่าเพิ่งตกใจครับ ผมหมายถึงหมอนวดไทยแผนโบราณครับ
สืบเนื่องมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ที่เจ็บหลัง ปวดตัว นู่นนี่นั่นโน่น หลังจากไปหาหมอมาหลายที่ วินิจฉัยกันต่างๆนาๆ จนผมงงว่าตกลงเป็นอะไรกันแน่ แต่ที่แน่ๆตั้งใจมากว่าปีนี้จะรื้อฟื้นสุขภาพดีให้กลับมา
ด้วยความที่ไม่ถูกกับแพทย์แผนปัจจุบันเท่าไหร่นัก สมัยเด็กๆรอดตายมาหลายครั้งก็เพราะแพทย์แผนไทยพวกยาต้มยาพ่นยาหม้อนี่แหล่ะ ยาเม็ดกินแล้วเอาผมไม่ค่อยอยู่ ครั้งนี้ก็เลยเริ่มไป "นวด"
วันนี้ ไปนวดพา เพื่อนขิงไปด้วย เห็นแล้วนึกถึงสภาพตัวเองเมื่อเดือนตอนต้นปี ร้องโอดโอยจะเป็นจะตายอนาถต่อผู้พบเห็นเป็นที่สุด ช่วงนั้นไปนวด5สัปดาห์ติด แต่ก็ช่วยได้เยอะมาก
วันนี้ พี่แหวนหมอนวดสูงอายุผู้ชำชองพูดสะกิดใจอย่างมาก "ถ้าเส้นมันตึงมากๆ มันรัดหัวใจ รัดข้างใน เป็นแรกๆยังทนได้ ยังทนไหว แต่ร่างกายไม่ไหวเมื่อไหร่ เป็นหนักแล้ว คราวนี้จะหาสาเหตุไม่เจอ"
มานอนลองคิดใคร่ครวญ ผมว่าจริงนะ บางทีเรื่องเล็กๆน้อยๆที่เราเห็นว่ายังไม่สำคัญ ปล่อยไป ไม่จัดการ ไม่แก้ไข นานวันขึ้นก็แก้ไขยาก ทั้งเป็นความเคยชิน และเป็นเหตุผล(ปลอมๆ)ในจิตใจว่า เราเลิกไม่ได้
บางคนรู้ทั้งรู้ว่ากาแฟไม่ดี แต่ไม่เลิก เพียงเพราะเหตุผลว่า กินมาทั้งชีวิต (อย่ามาพูดนะว่า เลิกไม่ได้)
บางคนรู้ว่าออกกำลังกายดี แต่ไม่ทำ เพราะเหตุผลว่าไม่มีเวลา
บางคนนอนดึก ข้าวเช้าไม่กิน หนังสือไม่อ่าน อื่นๆอีกมากมาย ที่เรารู้แก่ใจว่าดีแต่ไม่ทำ รู้ว่าไม่ดีแต่ก็ยังทำ
ทั้งหมดทั้งสิ้น พูดกันง่ายๆ คือ เราไม่ตระหนักถึงความสำคัญของมันมากเท่าความเป็นจริง
หวังว่า หากวันหนึ่งเมื่อเราได้ตระหนักถึงความสำคัญตามจริง วันนั้นคงไม่ใช่วันที่เราไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว
อย่าคิดว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย สิ่งสำคัญและยิ่งใหญ่ของโลกนี้ ล้วนเริ่มต้นจากสิ่งเล็กน้อยทั้งนั้นครับ
No comments:
Post a Comment