เมื่อเย็นตอนเดินกลับบ้าน ละอองฝนเบาๆกับลมเย็นๆ ชวนให้รู้สึกดีจริงๆ วู้บหนึ่งของสายลมที่พัดมาชวนให้หนึ่งถึงวันเวลาดีๆตอนอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ อากาศเย็นๆชื้นๆแบบนี้ เดินริมถนนคนเดียวแบบนี้ เสียงเพลงจากเครื่องเล่นเอ็มพี3ที่เสียบอยู่ในหู แม้ว่าอาจจะไม่ใช่เพลงเดียวกัน แต่ก็เป็นเพลงนมัสการพระเจ้าเหมือนกันแน่ๆ ณ เสี้ยววินาทีหนึ่ง ที่รู้สึกเหมือนทุกอย่างรอบตัวหยุดนิ่ง มีเพียงเด็กน้อยคนหนึ่งกำลังเดินร่าเริงอย่างมีความสุข กับสายตาของพ่อที่มองมาอย่างอ่อนโยน...
...เคยอ่านหนังสือเจอ เรื่อง เวลาที่หยุดนิ่งของไอแซค นิวตัน กับ เวลาที่เลื่อนไหลได้ของ ไอสไตน์ ไม่ต้องห่วงผมไม่พูดถึงหรอก แค่นึกถึงบางตอนที่เขียนไว้ในนั้น มีคนขอให้ไอสไตน์ ช่วยอธิบาย เรื่องเวลาที่เลื่อนไหลได้จากทฤษฎีสัมพันธภาพของเขา ด้วยภาษาที่คนไม่เคยเรียนฟิสิกส์จะเข้าใจได้ง่ายๆ
ไอสไตน์ตอบว่า แม้จะเป็นเวลาเพียง 1 นาที สำหรับการนั่งบนเตาไฟร้อนๆ หรือ นั่งร่วมโต๊ะกับคนที่ไม่ชอบหน้า เราจะรู้สึกว่าช่างเป็นเวลาที่ยาวนานนับชั่วโมง แต่หากชายหนุ่มอย่างพวกเราได้มีโอกาสนั่งอยู่กับสาวน้อยที่เราชอบอยู่นับเป็นชั่วโมงๆ เรากลับรู้สึกว่าเวลาเพิ่งจะผ่านไปเพียงไม่กี่นาที...
...เคยได้ยินใครสักคนกล่าวไว้ ช่วงเวลาที่มีความสุขมักจะสั้นเสมอ ผมอยากจะแก้ใหม่เป็น ช่วงเวลาที่ทำให้เกิดความสุขมักเกิดขึ้นไม่นาน แต่เวลาที่มีความสุขจะยาวหรือสั้นเราเลือกได้
เวลาเพียง10วัน ในเซี่ยงไฮ้ นับว่าสั้นนัก แต่ความสุขที่ผมได้รับมายังคงอยู่เสมอ ก็คงเหมือนอนุสรณ์แห่งพระพรอื่นๆนั่นแหล่ะนะ ทุกครั้งที่เห็น ใจก็ได้นึกถึงว่าพระเจ้ารักเรามากเพียงใด และก็ทุกครั้งเช่นกัน ที่ทำให้หัวใจแช่มชื่นมีกำลังสดใหม่อยู่เสมอ...
เข็มวินาทีที่นาฬิกาข้อมือยังคงขยับไปข้างหน้าสม่ำเสมอเป็นจังหวะ ไฟยังเป็นสีเขียว รถยังวิ่งอยู่ไม่ขาดสาย เวลายังคงเดินต่อไป เหมือนชีวิตผมและคนอื่นๆที่ยังคงต้องก้าวต่อไปเหมือนๆกัน เพียงแต่..
..จิตวิญญาณของผมคงหยุดนิ่งอยู่ที่ความเป็นนิรันดร์ของพระเจ้าเสียแล้วกระมัง
No comments:
Post a Comment