เคยรู้สึกว่า สถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญอยู่ ณ ตอนนี้ เหมือนเราเคยเจอมาแล้วบ้างมั้ย ผมคิดว่า แทบทุกคนคงเคยรู้สึกแน่ๆ มีหลากหลายคำอธิบาย สำหรับปรากฎการณ์นี้
สำหรับผม ผมเชื่อว่า โลกของเราก็เหมือนกับโรงเรียนขนาดใหญ่มากๆ สถานที่สำหรับเตรียมเราให้พร้อมกับชีวิตนิรันดร์หลังความตาย ชีวิตนิรันดร์ที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ยังอาศัยอยู่ในโลกนี้ จึงเต็มไปด้วยบททดสอบ เพื่อให้เราเรียนรู้ และหากเรายังไม่เรียนรู้ อีกไม่ช้านาน บทเรียนนั้นก็จะเกิดขึ้นเพื่อให้เราได้เรียนรู้อีก บทเรียนเดิมๆจะเกิดขึ้นกับชีวิตของเราเสมอ (และมักจะหนักขึ้นเรื่อยๆด้วย) จนกว่าเราจะเรียนรู้และสอบผ่านได้ เพื่อไปสอบบทเรียนต่อไป
หลายคน คิดว่าชีวิตนี้ไม่ยุติธรรม เราตกเป็น เหยื่อ ของชะตากรรม เพียงเพราะการเผชิญหน้ากับการสอบโดยไม่รู้ตัว เพียงเพราะคิดว่าเรา เลือก ข้อสอบไม่ได้ (ซึ่งจริงๆ เราเลือกและรับรู้ได้ ว่าเราจะต้องสอบเรื่องอะไร เรายอมรับความจริงได้ดีหรือเปล่า?)
แต่อีกหลายคนสนุกสนานกับการเติบโต (ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นผ่านความเจ็บปวด มั้ง?)ยอมรับและเข้าใจ ความจริงและ กติกา ของการดำเนินชีวิตบนโลกนี้มากขึ้น
-----------------------------------------------
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา คิดมาตั้งแต่เช้า เย็นนี้จะไปไหนดี คลองเตย / ลาดพร้าว ถ้าวันนี้ไปลาดพร้าว ก็คงไม่คิดจะกลับไปคลองเตยอีกแล้ว คิดจนถึงเย็นก็ยังไม่ได้คำตอบ พระเจ้าก็เงียบๆไม่ตอบอะไร สุดท้าย ใช้ใจนึกเอา (อีกแล้ว) ผมเลือกไป ลาดพร้าว แม้จะไม่มีเหตุผลพอที่จะอธิบายให้ตัวเองยอมรับได้ว่าทำถูกต้อง แต่จิตสำนึกก็เชื่อว่าทำถูกแล้ว ก็ขอพระเจ้าให้เห็นการรับรองในสิ่งที่ผมเชื่อด้วย (ถ้าใช้ความรู้สึกคงง่ายกว่านี้ กินข้าว อ่านหนังสือ นอน...)
หลังจากกลับถึงบ้าน การไปลาดพร้าว สำหรับตัวผมเอง ผมบอกไม่ได้ว่า ดีกว่า ไปคลองเตยหรือเปล่า (ก็ผมไปได้แค่ที่เดียวนี่นา) ผมรู้เพียงว่า ดีมากๆเลย ที่ได้ไปลาดพร้าว (ขิงบอกว่า ดีที่สุด เลย ไม่ใช่แค่ดีมากๆ) ทั้งเรื่องเพลง second chance ที่ โดน สุดๆ แถมยังได้ทั้งอัลบั้มกลับบ้าน (กำลัง อยาก พอดี)ที่สำคัญ ผมคิดว่าพระเจ้าใช้ผมไปเพื่อน้องคนนึง
ตั้งแต่ก้าวแรกที่ถึงที่นั่น สิ่งที่ผมบอกน้องคนนั้นตั้งแต่แรก เพลงนมัสการ สิ่งที่ผมเล่าช่วงแบ่งปัน จนถึงสิ่งที่ผมเล่าชีวิตตัวเองที่เคยเลือกผิด (เสนอหน้าไปนั่งประชุมกะเขาด้วยได้ยังงัย?) (ขอบคุณ โย กับ บะหมี่ นะครับ ที่ไม่รีบเชิญผมกลับบ้าน) ผมมั่นใจว่า พระเจ้ากำลังช่วยให้น้องคนนี้เลือกให้ถูก เชื่อว่าคำพูดจากชีวิตผมคงมีส่วนอยู่บ้างที่ช่วยให้น้องเขา เลือก ได้ถูกในท้ายที่สุด ผมดีใจจริงๆ ที่มีคนสอบผ่านในเรื่องที่ผมสอบตกซ้ำซาก ดีใจที่เขาคงได้เรียนรู้จากความผิดพลาดของผม ขอบคุณพระเจ้านะครับ
-----------------------------------------------
เมื่อวันศุกร์ ตื่นสาย สายแบบก้ำกึ่งว่าจะไปเข้างานสาย แทบจะไม่ต้องคิด หัวผมมี รูปแบบ ในการหาข้ออ้างและปกป้องตัวเองสารพัด ผมกำลังจะหยิบโทรศัพท์ ขึ้นมา โทรไปลาป่วย...
คงเป็นผลพลอยได้ จากการที่ชีวิตถูกจุดประกายขึ้นอีกครั้งเมื่อต้นสัปดาห์ ผม เลือก ที่จะไม่ใช้ รูปแบบชีวิตเดิมๆ ผมอยากมีชีวิตใหม่ ผมจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ผมตัดสินใจออกจากบ้าน 8.22 น. (สายก็สายวะ ยอมสายแต่ไม่ยอมโกหกโว้ย) ใจก็ขอพระเจ้าช่วยด้วย..
ครับ พระเจ้าช่วยจริงๆ สถิติใหม่ครับ คุณเชื่อมั้ย ผมไปถึงที่ทำงาน แตะบัตร 8.30 น. เป๊ะๆ ผมดีใจ ที่ผมเลือกถูก ขอบคุณพระเจ้า!
-----------------------------------------------
วันนี้ ไปฟิตเนส เล่นไปได้ 10 กว่านาที เป็นลม คุณเอ้ย อาการนี่ยิ่งกว่าสมัยไปเขาชนไก่อีก คิดในใจว่านี่เราเป็นได้ขนาดนี้เลยเหรอ
ครั้งแรกในชีวิต ที่เป็นลมหัวทิ่มบ่อแบบนี้ เห็นผลอย่างชัดเจนจากการใส่ใจสุขภาพน้อยกว่าที่ควรจะทำในช่วงที่ผ่านมา
ผมสอบตก เรื่องการรักตัวเอง
ผมปล่อยตัวเองให้จมอยู่กับความเศร้านานเกินไป (มันมีผลต่อปริมาณเม็ดเลือดแดงนะ คุณหมอเคยทำวิจัยไว้) ผมกินของอร่อยตามปากอยาก โดยไม่สนใจของกินที่ดีต่อสุขภาพ ผมนั่งปล่อยอารมณ์ฆ่าเวลายามค่ำคืน เพียงเพื่อให้ ... ผ่านพ้นไป
เหมือนพระเจ้าจะมาเตือนให้พอได้แล้ว สำหรับเวลาที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่แพ้กลางคืนทุกที
ไม่รู้ว่าจะชนะได้ยังงัยเหมือนกัน กับ รูปแบบนี้ มันเป็นแทบทุกครั้งที่อยู่คนเดียวเกิน 6 ชม. แต่ก็ยังมีความหวังอยู่นะ ไม่ว่าจะแพ้อีกกี่ครั้ง ยังเชื่อเสมอว่า ยังมี "โอกาสครั้งที่สอง" อยู่
"... The hope, the change, the second chance I've gained,
On you I throw my life,
casting all my fears aside,
How could greater love than this, ever possibly exist
So I wait upon You now,
With my hands released to You,
Where a little faith's enough,
To see mountains lifted, moved,
Yeah and I wait upon You now,
Dedicated to Your will,
To this love that will remain,
A love that never fails"
No comments:
Post a Comment