เช้านี้ ได้ยินข่าวสะเทือนใจข่าวหนึ่ง คือ การลอบสังหารคุณสนธิ ลิ้มทองกุล
ออกตัวไว้ก่อนว่าผมไม่ได้อยู่สีใดทั้งนั้น ผมเป็นคนไทย และผมไม่เห็นด้วยที่เราจะพยายามบังคับขู่เข็ญชักจูง จะโดยเจตนาใด หรือวิธีการใด เพื่อให้คนที่มีความเชื่อต่างจากเรา มาคิดเห็นพ้องต้องกันกับความคิดของคนกลุ่มเรา ผมเชื่อเรื่องการเคารพให้เกียรติกัน เราสามารถมีเอกภาพในความหลากหลายได้
คนที่มีมุมมองต่างจากเรา ไม่ได้แปลว่า เราถูกเขาผิดเสียหน่อย
ผมคิดว่า การลอบสังหาร เป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน รุนแรง และไร้ซึ่งอารยธรรมอย่างที่สุด
การลอบสังหารเป็นการฆ่าหรือประทุษร้ายต่อผู้อื่น โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว ไม่มีโอกาสได้ป้องกันตัว เป็นการฆ่าที่ผู้ลงมือกระทำสามารถออกแบบควบคุมและกำหนดทุกรายละเอียดได้ โดยที่อีกฝ่ายไม่สามารถใช้ได้แม้แต่สิทธิของการเป็นมนุษย์ที่มีชีวิตอยู่ เช่นครั้งนี้ ตำรวจพบปลอกกระสุนร่วม 60 นัด ร่วงเต็มถนน พยานเล่าว่า มือปืนกราดกระสุนใส่รถทั้งคัน
การลอบสังหารชีวิต ส่วนมากเกิดจากเจตนามุ่งร้าย หวังทำลายชีวิตให้พินาศย่อยยับไป
แต่
การลอบสังหารความคิด มักเกิดจากการขาดความรู้ความเข้าใจและประสบการณ์ที่เพียงพอ โดยส่วนมากมักกระทำด้วยเจตนาหวังดี บริสุทธิ์ใจ และอาจใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะเห็นผล ซึ่งกว่าจะรู้ว่าเราถูกลอบสังหาร ความคิดอาจบาดเจ็บสาหัสหรือตายเสียแล้ว ถึงตอนนั้นชีวิตก็คงไม่ต่างจากตายทั้งเป็น
ในพระคริสต์ธรรม ยากอบ 4:1-2 บอกว่า "อะไรเป็นสาเหตุของสงคราม และอะไรเป็นสาเหตุของการทะเลาะวิวาทกันในพวกท่าน มิใช่กิเลสตัณหาของท่านหรือที่ทำให้ท่านต่อสู้กัน ท่านทั้งหลายอยากได้ แต่ไม่ได้ ท่านก็ฆ่ากัน ท่านโลภแต่ไม่ได้ ท่านก็ทะเลาะและทำสงครามกัน..."
และในพระคริสต์ธรรม สุภาษิต 14:6-8 บอกว่า "คนมักเยาะเย้ยแสวงปัญญาเสียเปล่า แต่ความรู้นั้นก็ง่ายแก่คนที่มีความเข้าใจ จงไปให้พ้นหน้าคนโง่ เพราะที่นั่นเจ้าไม่พบถ้อยคำแห่งความรู้ ปัญญาของคนหยั่งรู้คือการเข้าใจทางของเขา แต่ความโง่ของคนโง่เป็นที่หลอกลวง"
จะป้องกันตัวเองจากการถูกลอบสังหาร คงไม่ง่ายนัก หากเราเป็นอุปสรรคสำหรับความต้องการบางสิ่งของบางคนหรือกลุ่มคน แต่อย่างน้อย การรู้จัก "พอ" และ "แบ่งปัน" ก็คงช่วยได้เยอะ
ในขณะที่การป้องกันตัวเองจากการถูกลอบสังหารความคิด เป็นเรื่องที่น่าจะทำได้ง่ายกว่า หากเราเข้าใจหนทางของเราเอง และไปให้พ้นหน้าจากสิ่งหลอกลวง
No comments:
Post a Comment