Apr 12, 2009

stand up !!

ตอนนี้ปวดหัวปี๊ดเลย.... สงสัยวันนี้จะกินอิ่มไปมั้ง หุหุหุ เกี่ยวไหม
เพิ่งจะพูดเล่นๆว่า กินเผื่อวันหยุดสงกรานต์ ท่าจะจริงซะละมั้งน่ะ

วันนี้ เราไปดูหนังเรื่อง knowing กันมา ชอบมากมาย ไปอ่าน review ใน multiply ละกันนะ

แล้วก็ไปกินข้าวด้วยกันต่อ อิ่มมากมาย แม้บางคนจะกลับไปก่อน ด้วยภารกิจเดินทางกับครอบครัว... เดินทางโดยปลอดภัยนะครับ ^^

กำลังนั่งอิ่มๆอยู่ ก็ได้รับคำสั่งห้ามกระทำบางอย่างกับบางคนในช่วงสงกรานต์นี้ และด้วยความงี่เง่าของผมเอง ก็เลยทำให้เรื่องไม่เป็นเรื่องกลายเป็นเรื่องขึ้นมา แต่ก็ดีเพราะ ยิ่งทำให้เรื่องของเรา เป็นเรื่องของเรามากขึ้น

หลังจากความเข้าใจต่อกันกลับคืนมา ผมมีความรู้สึกหลายๆอย่างเกิดขึ้น.........

----------------------------------------------------------

ก่อนหน้านี้ มีเจ้านายเก่าคนหนึ่ง พยายามชักชวนให้ผมกลับไปทำงานกับเขาอีกครั้งหนึ่ง ผมนั่งคิดทบทวนตัวเอง ผมพบว่า ผมเป็นคนที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งที่ผมเลือกเอง อะไรก็ตามที่ผมเลือกเอง ผมยินดีที่จะรับผิดชอบผลที่เกิดขึ้น และแน่นอน ทุกครั้งในการเลือกของผม ผมพิถีพิถันและมีหลักเกณฑ์ในการเลือกเสมอ

จริงๆแล้วผมเป็นคนใช้ชีวิตง่ายๆ ชิลๆ ไม่เรื่องมาก อะไรหยวนได้ก็หยวน ผมมองว่าผมสามารถปรับใจผม ให้เอาตัวรอดได้ดี ก็เลยเสียนิสัยกลายเป็นคนยืดหยุ่นสูงมากจนหมิ่นเหม่กับการประนีประนอม (แล้วมันดีไหมล่ะน่ะ T_T)

ที่ผ่านมา ผมไม่เห็นด้วยในหลายๆสิ่งกับการกระทำของคนๆหนึ่ง ซึ่งจริงๆผมเคยเชื่อใจเขา แต่วันเวลาที่ผ่านไป ได้รู้จักกันมากขึ้น ยิ่งเหมือนไม่รู้จักเขามากขึ้น สิ่งที่เขาพยายามอยากให้ผมเชื่อ ขัดแย้งกับสิ่งที่ผมเห็น ความไว้วางใจซึ่งจริงๆควรจะมีต่อเขามากขึ้น มันกลับลดน้อยถอยลงเรื่อยๆ แต่ผมก็คิดเสมอว่า เราสามารถอยู่ด้วยกันได้

จนวันนี้ ชีวิตปกติสุขของผมดูเหมือนกำลังถูกทำลายลงด้วยมือของผู้ปกครองที่ขาดความเข้าใจ ซึ่งพระคัมภีร์เรียกว่า เป็นผู้บีบบังคับที่โหดร้าย (สภษ.28:16) ดูเหมือนคนที่ผมรัก กำลังเผชิญกับการบีบบังคับบางอย่างอยู่ ถ้าทำอะไรผม ผมไม่ว่า ผมไม่รู้สึก แต่ทำกับคนที่ผมรัก ผมไม่ยอมแน่

นานแล้วที่ผมไม่มีความรู้สึกแบบนี้ เหมือนกับนักรบที่ร้างสนามรบมานานกำลังใส่เกราะ เพื่อออกไปทำสงครามปกป้องคนที่เขารัก เขาไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่า จะตายไหม แต่ที่แน่ๆเพื่อคนที่เขารัก เขายอมสละชีวิตตัวเองปกป้อง

คงเหมือนที่ใครบางคนกล่าวไว้ว่า ความเข้มแข็งที่แท้จริงจะเกิดขึ้น เมื่อเรารักและมีใครสักคนให้ปกป้อง

พวกเราอยากอยู่อย่างสงบๆ สร้างครอบครัวด้วยความรัก ส่งผ่านความรักของพระเจ้าไปถึงคนรอบข้าง รับใช้พระเจ้าตามของประทาน กำลัง และความสามารถที่เรามี ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตามที่พระเจ้าทรงปรารถนา ขอให้เราถวายเกียรติพระเจ้าในแบบที่พระเจ้าทรงสร้างเรามาได้ไหม

วันนี้ ผมได้เรียนรู้ว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะนั่งมองอยู่เฉยๆอย่างน่าสมเพช รอคอยความหวังลมๆแล้งๆว่าทุกอย่างจะดีขึ้น

ในทุกๆเรื่อง ต้องมีการเริ่มต้น จงลุกขึ้น ยืนหยัดเพื่อคนที่คุณรัก เพราะนั่น คือ ความหมายของการมีชีวิตอยู่ของตัวคุณเอง

2 comments: