Jun 20, 2008

ความรับผิดชอบเกิดขึ้นเมื่อเราเชื่อ

วันนี้เป็นวันแรกที่เข้าไปนั่งอยู่ใน Director's Meeting ก่อนเข้าก็ไม่แน่ใจว่าจะเข้าดีหรือเปล่า แต่คิดว่าน่าจะควรเข้า น่าจะส่งผลดีต่อการทำงานภาพรวมได้มากขึ้น ก็บอกพระเจ้าไว้ว่า ถ้าพระเจ้าพอพระทัยกับการเข้าประชุมของผม ขอให้ได้รับมอบหมายงานจากการประชุมครั้งนี้

พระเจ้าทรงโปรดอวยพรให้ผมได้รับการมอบหมายงาน แม้อาจจะดูไม่สำคัญอะไร แต่สำคัญมากสำหรับผม

หลังจากนั้น มีการจัดงานวันเกิดให้ประธานบริษัท และประชุมงานกับผู้ถือหุ้นท่านหนึ่งเรื่องการเปิดธุรกิจใหม่ คำแบ่งปัน คำแนะนำหลายๆอย่าง ทำให้เราได้เรียนรู้วิธีมอง วิธีคิด และวิธีการใช้ชีวิต ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ เช่น เรื่องของการปรับตัวเมื่อบริบทชีวิตเปลี่ยน ความเอาจริงเอาจัง การลงรายละเอียด การตั้งคำถาม

ผมชอบประโยคนี้ของท่านประธานมาก "ความรับผิดชอบเกิดขึ้นเมื่อเราเชื่อ" ชวนให้นึกถึงประโยคเด็ดของภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง "the great power comes with the great responsibility"

หลังจากประชุมกับท่านผู้ถือหุ้นเสร็จ ก็เลยขอรับคำแนะนำจากท่านเรื่องการพัฒนาองค์กร พระเจ้าก็แตะใจให้ชวนน้องคนนึงเข้าไปประชุมด้วย ตอนแรกก็คิดอยู่เหมือนกันว่าจะแนะนำตัวน้องให้พี่ผู้ถือหุ้นรู้จักอย่างไรดี เพื่อพี่เขาจะได้ไว้ใจ และสะดวกใจที่จะให้คำแนะนำได้อย่าง "ลึก" เพียงพอ... ขอบคุณพระเจ้า ผมเกริ่นๆไปนิดหน่อย น้องเขาก็พูดแนะนำตัวเอง ไม่รู้ว่าคิดได้หรือพระเจ้าทรงจัดให้ แต่ที่แน่ๆ เป็นการเเนะนำตัวที่เข้าเป้ามาก

เป็น 2 ชั่วโมงที่อัดแน่นไปด้วยข้อมูลเชิงวิชาการ สิ่งที่คนอื่นเคยทำมา คำแนะนำต่างๆ และการต่อยอดในการประยุกต์ใช้ เป็นครั้งแรกเลยมั้ง ที่หัวแล่นโครมครามด้วยความตื่นเต้น ตั้งแต่มาทำงานที่นี่
หลายสิ่งที่พี่เขาพูด ยิ่งตอกย้ำถึง ภารกิจ (ไม่อยากใช้คำว่า ที่เราได้รับมาจากสวรรค์)ที่จะต้องทำที่บริษัทที่นี่
ในตอนท้ายที่นั่งคุยกัน พี่เขาก็บอกว่า ท่าทางผมจะเป็นนักคิด (แหม พี่ดูออกไวมากครับ) น้องเขาก็พูดต่อว่า ตัวเขาเองคงจะเป็นนักทำ ก็ดีครับ จะได้ใช้จุดแข็งของแต่ละคนเสริมกันในการทำงานรับใช้พระเจ้า

ตอนนั่งรถกลับมา น้องเขาก็พูดถึงงานในบางลักษณะที่เป็นตัวเขา และบางลักษณะที่ไม่ใช่ตัวเขาเลย ฟังๆดูแล้ว ก็ให้นึกคิดขอบคุณพระเจ้า ที่วันนี้พระเจ้าทรงนำให้พี่ผู้ถือหุ้นคนนี้มา เพราะทีแรกนัดกันไว้ว่าจะไปประชุมกันข้างนอก (ซึ่งวันก่อนผมหัวเสียไป เพราะเขายกเลิกนัดโดยไม่บอกผม... กลับใจแล้วครับ) ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น ผมก็คงไม่ได้ปรึกษาเรื่ององค์กร คงไม่มีการพูดคุยเหมือนในวันนี้เกิดขึ้น

คิดไปคิดมาแล้ว ก็เข้าใจว่า พระเจ้าคงกำลังสนับสนุนเราในการรับใช้พระเจ้าในการทำงานอยู่ พระองค์คงทรงเห็นถึงสิ่งที่เราเชื่อและสิ่งที่เราตั้งใจจะรับผิดชอบ แต่อาจจะยังต้องการการเรียนรู้ฝึกฝนอีกมาก (ลืมบอกไป พี่เขาอนุญาตให้เรานัดกับเขาอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เพื่อเรียนรู้ในเรื่องการปรับปรุงระบบการทำงานในบริษัท ขอบคุณพระเจ้า)

ชวนให้นึกถึงเมื่อวาน น้องคนนึงก็มาเข้ากลุ่ม หลังจากที่ไม่เจอกันนาน หลังจากที่กลุ้มอกกลุ้มใจกับพระเจ้าอยู่หลายสิบวัน ขอบคุณพระเจ้า ที่เริ่มเห็นสิ่งต่างๆไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามที่รับและเชื่อไว้

ชวนให้นึกถึงพระคำของพระเจ้าที่พระองค์บอกไว้ พระองค์จะทรงโปรดให้ทุกสิ่งทำงานร่วมกัน เพื่อให้เกิดผลดีกับชีวิตของเราในทุกสิ่ง และ เมื่อเราเชื่อเราจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า

เมื่อเราเชื่อ...เราจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ในสิ่งที่เราขอรับผิดชอบต่อพระพักตร์ของพระเจ้าเป็นแน่ เอเมน

No comments:

Post a Comment