Jan 22, 2009

ไม่มีประโยชน์

เมื่อวันก่อน มีน้องคนหนึ่งโทรมาให้ช่วยงานค่อนข้างด่วน ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถ แต่เพราะด้วยความฉุกระหุก ปัจจุบันทันด่วนนี่แหล่ะ กว่าจะเสร็จก็เกือบตีสอง ที่สำคัญตอนเช้าต้องตื่นเอาไปให้ตั้งแต่ตีห้า สุดท้ายงานนั้นก็ไปไม่ถึงมือของน้องตามนัด ที่ข่มตาอดหลับอดนอน มีค่าเป็นศูนยภาพ

ผมได้ข้อคิดอย่างหนึ่ง

จริงอยู่ พระเจ้าบอกว่า มนุษย์ดูที่รูปกายภายนอก แต่พระเจ้าทอดพระเนตรจิตใจภายใน หลายครั้งเราจึงมักโน้มเอียงพิจารณาคนจากท่าทีแรงจูงใจเป็นหลักอยู่บ่อยๆ ซึ่งดีแล้ว แต่ แล้วไงต่อ...

เราอยู่ในโลกนี้ ที่ซึ่งเรื่องกายภาพยังมีความจำเป็นอยู่ (การบอกว่าทำเต็มที่เลยนะ ผมจะอธิษฐานเผื่อ แล้วผมก็เดินจากไป แทบไม่มีประโยชน์อะไร จะดีกว่าไหม ถ้าเราอยู่ตรงนั้นด้วยกับเขา) การตั้งใจดี ก็ดีอยู่ แต่ต้องมีผลิตภาพที่วัดจับต้องได้เป็นรูปธรรม

นั่นคือ เราจำเป็นต้องประเมินผลในทั้งสองแกน ทั้ง ผลงาน และท่าที แม้ท่าทีถูก แต่ไม่มีผลงานได้ตามเป้าประสงค์ ก็ต้องรับการตักเตือน ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า การได้ผลงานตามเป้าประสงค์แต่ด้วยท่าทีวิธีการแบบโลก

เราอยู่ในโลก แต่เราไม่ได้เป็นของโลก... ตราบใดที่ยังสัมพัทธ์กับโลกอยู่ คนในโลกเขาเห็นแต่ผล เขารู้จักเราจากผลที่เกิด จากผลที่เขาเห็น ไม่ใช่จากสิ่งที่เราเป็นอยู่ภายใน ซึ่งเขามองไม่เห็น ดังนั้น ตราบใดที่ยังอยู่ในโลกนี้ จงให้คนเขาเห็นผลผลิตจากชีวิตของเรา มิเช่นนั้นแล้ว ไม่มีประโยชน์เลยที่จะบอกว่าเราเป็นต้นไม้ดี และอันที่จริง ต้นไม้ดีย่อมออกผลดี จะออกผลเลวไม่ได้อยู่แล้ว ต้นไม้ที่แข็งแรงดีย่อมออกผล จะไม่ออกผลก็ไม่ได้ เว้นแต่ไม่ใช่ฤดูกาลของมั้น มิเช่นนั้น เปล่าประโยชน์ที่จะยืนต้นอยู่ ถูกสาปให้ตายเสียบัดนั้นคงสมควรแล้ว

No comments:

Post a Comment