Jan 21, 2008

หอยทากไม่มีปีก

เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว หลายคนคงได้รับเมลเรื่อง หอยทาก เรื่องที่เขียนโดยได้รับแรงบัลดาลใจจากเหตุการณ์ในพระคัมภีร์ ช่วงเวลาก่อนที่น้ำจะท่วมโลก สัตว์ทุกชนิดต่างเดินทางมุ่งหน้าไปขึ้นเรืออาร์คที่โนอาห์สร้างขึ้นตามบัญชาของพระเจ้า
ในขณะที่ม้า 1 ตัว ก้าวขา ด้วยระยะทางที่เท่ากัน หอยทากตัวน้อยอาจต้องใช้เวลาถึงครึ่งวัน
กับก้อนหินเล็กๆในสายตาของสัตว์ตัวอื่นๆ อาจกลายเป็นเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงสำหรับการเดินทางสู่จุดหมายของเจ้าหอยทาก
หอยทากอาจเป็นสัตว์ชนิดแรกที่ตื่นตัวในการเดินทางสู่เรือแห่งพระสัญญา แต่มันอาจจะเป็นสัตว์ตัวสุดท้ายที่ไปถึงเรือลำนั้นก็เป็นได้

ครั้งนั้น พระเจ้าหนุนใจผมเรื่อง ความอดทนพากเพียร (perseverance) แต่ละคนถูกสร้างมาไม่เหมือนกัน แต่ทุกคนถูกเรียกให้เข้าสวรรค์เหมือนกัน ขอเพียงเราไม่ลดละ ไม่ล้มเลิก แม้จะเป็นตัวสุดท้าย แต่พระเจ้ายังคงเปิดประตูรอต้อนรับเราเสมอด้วยความยินดี

ครั้งนั้น ผมจำได้ว่า ผมรู้สึกเจ็บช้ำกับความเป็นตัวของตัวเอง รู้สึกโมโหตัวเอง เฝ้าแต่ถามตัวเองว่าทำไมเราถึงเดินได้ช้าอย่างนี้ ทำไมเราถึงไม่เหมือนคนอื่นเขา ในหัวมีแต่คำถามว่า ทำไม ทำไม และทำไม

พระเจ้าไม่เพียงหนุนใจและตอบคำถามของผมด้วยเรื่องของหอยทากเท่านั้น แต่ยังสอนให้ผมได้เข้าใจด้วยว่า คนเราแตกต่างกันและไม่มีประโยชน์ที่มานั่งถามว่าทำไมเราถึงแตกต่างกัน เพราะ เราทุกคนเลือกได้ว่าจะใช้ชีวิตที่เราได้รับมาอย่างไร
ต่อมาไม่นาน ผมก็ได้รู้ว่า คงไม่ใช่ผมคนเดียวที่รู้สึกอย่างนั้น จากคำพูดของชายคนหนึ่งซึ่งกล่าวไว้ว่า "แม้ข้าพเจ้าจะเดินช้า แต่ข้าพเจ้าไม่เคยเดินถอยหลัง" ถ้าจำไม่ผิด เจ้าของประโยคนี้ คือ อับราฮัม ลินคอร์น

ผ่านมา 4 ปี เหตุการณ์ในพระคัมภีร์ครั้งนี้ ได้กลับมาสู่ชีวิตอีกครั้งด้วยความสดใหม่ ผ่านทางหนังเรื่องหนึ่ง EVAN Almighty...

"ถ้าเราอธิษฐานขอความกล้าหาญ พระเจ้าจะให้ความกล้าหาญแก่เรา หรือให้โอกาสที่เราจะกล้าหาญ
หากเราอธิษฐานขอครอบครัวที่อบอุ่น พระเจ้าจะให้ครอบครัวที่อบอุ่นแก่เรา หรือให้โอกาสเราในการสร้างครอบครัวที่อบอุ่น"
ในเวลาที่คนต่างหัวเราะเยาะสิ่งที่โนอาห์ทำ แต่ภรรยาและลูกๆของเขาต่างยืนหยัดอยู่เคียงข้างโนอาห์ เป็นทั้งกำลังกายและกำลังใจให้แก่โนอาห์
ในวันเวลาที่สัตว์ทุกตัวต่างเดินขึ้นเรืออาร์คตามชนิดของมันนั้น พวกมันเดินกันมาเป็นคู่ๆ ตัวผู้กับตัวเมีย เดินมาเคียงข้างกัน...

เวลาที่เกิดวิกฤติปัญหาขึ้น เป็นการง่ายที่จะผละออก แยกตัวมาเดินเพียงคนเดียว ซึ่งก็ดูฉลาดดีหากคิดเพียงว่าต้องการรักษาตัวเองให้รอด โดยเฉพาะหากปัญหานั้น เป็นของอีกฝ่ายหนึ่ง
แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง นั่นคือช่วงเวลาอันเป็นโอกาสสุดแสนจะพิเศษไม่ใช่หรือ ที่พระเจ้ามอบให้กับเรา เพื่อทำให้เราต่างรู้ว่า เรา รักกันมากมายเพียงไหน ทำให้เราสามารถ มี ครอบครัวที่สุดแสนจะอบอุ่นขึ้นมาได้ ทำให้ เรา รู้ว่า เราต่างอยู่เคียงข้างกัน ทำให้เรารู้ว่า เรา เป็นของกันและกัน... เราแต่ละคนอาจผ่านมันไปไม่ได้ แต่เราทั้งคู่จะผ่านมันไปได้ด้วยกันอย่างแน่นอน

4 ปีผ่านไป หอยทากตัวนั้น ยังคงตั้งหน้าตั้งตาเดินทางสู่ดินแดนแห่งพระสัญญาอยู่ ทำให้ผมนึกถึงคำพูดประโยคหนึ่ง ที่กล่าวไว้ว่า "การเดินทางที่สั้นที่สุด คือ การเดินทางไปกับเพื่อนสนิทที่รู้ใจ" หวังว่าเส้นทางที่เจ้าหอยทากต้องเดินอีกไกล คงกลายเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุด ในอีกไม่นานนัก

...เคียงข้างกันไป ผมชอบคำนี้จริงๆ

1 comment:

  1. เพิ่งจะไปอ่านบทความหนึ่งเข้า ถึงรู้ว่าเรื่องหอยทากกับเรืออาร์คนี่มีคนเคยกล่าวไว้มานาน นานก่อนผมจะเกิดเสียอีก

    “By perseverance the snail reached the ark.” / Charles H. Spurgeon

    ไม่ใช่ใครที่ไหน 1 ใน 3 นักเทศน์ในดวงใจของผมนั่นเอง รู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ ที่พระเจ้าให้เข้าใจเรื่องนี้ เหมือนกับที่ครั้งหนึ่งเคยให้ สเปอร์เจียน ได้เข้าใจ

    ReplyDelete