วันนี้ดีใจมากเลย...
>
ทำงานมาได้ 3 เดือนครึ่ง ยังไม่พ้นช่วงทดลองงานเลยนะ แต่ผมได้โบนัสประจำปีด้วย (แม้จะไม่มากแต่ก็ได้แหล่ะ) ก่อนหน้านี้ได้ยินพนักงานรุ่นพี่ที่บริษัทบอกว่า พนักงานใหม่ ทำงานไม่ครบปี อดโบนัส ผมก็อธิษฐานบอกพระเจ้า อยากให้เรื่องโบนัส เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่พระเจ้าจะใช้รับรองว่านำผมมาทำงานที่นี่ ผมไม่ได้อยากได้โบนัสเพราะอยากได้เงิน ผมอยากมั่นใจมากขึ้นว่า กำลังเดินตามการทรงนำของพระเจ้า...
>
ผมคิดมานานเรื่องการย้ายโครงสร้าง แม้จะมีหลายเหตุผลที่หลายคนไม่เห็นด้วย แต่ผมเห็นว่าการอยู่กับหน่วยเดิมต่อไป ไม่ได้ส่งผลดีต่อชีวิตของผมซักเท่าไหร่ ผมบอกผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ ผมบอกพระเจ้า แล้วผมก็อยู่เฉยๆ..
ในใจ ผมรับรู้ได้เสมอว่า ไม่ช้าก็เร็ว พระเจ้าก็ต้องให้ผมไป แม้ช่วงแรกๆ เพื่อนๆหลายคนจะช่วย แต่พระเจ้าคงไม่ต้องการให้ไปโดยเห็นว่าด้วยฝีมือมนุษย์กระมัง ผมก็ทำใจแล้วนะ แต่ ความเชื่อ ความหวังยังเต็มเปี่ยม
ตัวเราเอง รักตัวเองยังรู้เลยว่าอะไรไม่ดีกับตัวเรา แล้วพระเจ้าผู้รักเรามาก ย่อมรู้แน่นอนว่า อะไรดีกับตัวเรา
ผมอธิษฐานกับพระเจ้า ผมอยู่ที่เดิมได้ไม่มีปัญหา แต่ผมก็พอมองออกว่า จะเกิดอะไรขึ้นบ้างกับชีวิตผม ผมขอย้ายไป เรื่องหลักไม่ใช่เพราะไม่อยากอยู่ที่เดิม หรืออยากไปอยู่กับใคร แต่ผมคิดว่าการย้ายครั้งนี้จะเกิดผลต่อภาพรวมทั้งอาณาจักรมากกว่า ถ้าพระเจ้าทรงเห็นชอบ ก็เปิดทางให้ผมด้วย
วันนี้ พี่คนหนึ่งโทรมาบอกว่า จะให้ผมย้ายไปอยู่ที่ใหม่ แต่จะอยู่ตรงไหน ต้องคุยกันอีกที...
>
เคยนั่งคุยกับคู่แต่งงานหลายต่อหลายคู่ ก็ไม่ได้บอกว่าเชี่ยวนะ แต่พอจะจับเคล็ดหลักวิชาได้อยู่อย่างนึงว่า ชีวิตคู่ที่มีกันและกันเพียงสองคนอาจจะแข็งแรง แต่ก็ยังเปราะบางอยู่มาก หากเทียบกับคู่แต่งงานที่ต่างฝ่ายต่างให้พระเจ้าเป็นบุคคลที่สามในชีวิตคู่ เรื่องสำคัญ คือ การที่ต่างฝ่ายต่างมั่นใจว่า เราเกิดมาเพื่อเป็นคู่อุปถัมภ์ต่อกันและกัน เป็นความมั่นใจที่ได้รับการหล่อหลอมสร้างขึ้นจากความสัมพันธ์อันดีที่มีกับพระเจ้า เป็นความมั่นใจที่เพิ่มมากขึ้นตามระยะเวลา เป็นความมั่นใจว่า พระเจ้าทรงนำมา...
เมื่อวันก่อนโทรไปคุยกับผู้เลี้ยงของน้องคนหนึ่ง โทรไปถามดูว่าน้องคนนั้นเขามีใครในใจหรือยัง และก็ขอคำปรึกษานิดหน่อย ก็ได้รับคำตอบและคำแนะนำมา ก็ตั้งใจไว้ว่าจะทำแค่นี้ จะไม่ล้ำหน้าพระเจ้า ส่วนของผมที่ทำได้มากที่สุดก็ได้ทำแล้ว ที่เหลือผมอธิษฐานขอให้พระเจ้าทรงเปิดทางและรับรอง เพราะเท่าที่มนุษย์ชาวโลกอย่างผมจะคิดได้ตอนนี้ คงมีแต่ต้องตัดใจและหมดหวังไป
อย่างไรก็ตาม ผมอธิษฐานบอกพระเจ้าเรื่องน้องคนนี้เหมือนกับขอโบนัสจากพระเจ้าน่ะแหล่ะ น้องคนนี้อาจจะเหมือนกับโบนัสของผมก็ได้ "...ผมไม่ได้อยากได้โบนัสเพราะอยากได้เงิน ผมอยากมั่นใจมากขึ้นว่า กำลังเดินตามการทรงนำของพระเจ้า..."
ขุนศึก เมื่อต้องเลือกอาวุธข้างกาย ความเข้ากันได้ดี เป็นเลือกหลักใหญ่ที่ต้องใช้พิจารณา อาวุธจะสำแดงแสนยานุภาพได้มากเท่าที่ผู้ใช้รู้จัก (ใครเคยอ่าน Bleach คงเข้าใจดี) และขุนศึกผู้นั้นจะสำแดงความเก่งกาจได้เต็มความสามารถ หากอาวุธนั้นแข็งแกร่งพอ หลังร่วมรบยืนหยัดผ่านสงครามไปได้ ขุนศึกย่อมขนานนามอาวุธชิ้นนั้นว่าอาวุธคู่กาย มีอาวุธชั้นยอดมากมาย แต่ เธอ สุดยอดกว่าสตรีทั้งปวง !!! (มาได้ยังงัยกันเนี่ย 555)
5555555
ReplyDeleteนั่นสิ
มาได้ยังไง
พระเจ้ามีสิ่งที่ดีเตรียมไว้ให้นะคะ
สู้ต่อไป
(เชื่อไหม ทำงานมา 3 ปี ไม่เคยได้โบนัสเลยพี่
น่าอิจฉาเจงๆ)