Dec 3, 2007

เพียงพอ...พอเพียง

เมื่อ2-3วันก่อน อาบน้ำอยู่เพลินๆ ก็นึกถึงเมลหนึ่งทีเพื่อนเคยส่งให้อ่าน หลายคนคงเคยอ่านบ้างแล้ว

เนื้อหาในเมล จะประมาณว่า พูดถึงผู้ชายคนหนึ่งเดินเที่ยวอยู่ในสวนดอกไม้ที่สวยมากๆ และเขามีสิทธิที่จะเลือกเอาดอกไม้กลับบ้านได้ 1 ดอก ภายใต้เงื่อนไขว่า ห้ามเดินย้อนกลับมา เดินหน้าได้อย่างเดียว
ในเมลนั้นบอกว่า ทางเดินตั้งแต่ช่วงที่เริ่มเห็นประตูทางออก ดอกไม้จะเริ่มบางไม่ค่อยมีให้เห็น และเขาสรุปให้ข้อคิดว่า บางทีเราช่างเลือกเสียจนต้องรอให้ถึงจุดที่จะวิกฤต (เช่น ใกล้เหยียบ 30) เราถึงจะเลือก ซึ่งถึงตอนนั้น คนดีๆหลายคน(ส่วนใหญ่)ก็ไม่อยู่ให้เราเลือกแล้ว....

ผมคิดว่า เรื่องสำคัญคือ ตัวเราต้องรู้จักตัวเราเอง รู้ว่าเราชอบดอกไม้แบบไหน กลิ่นไหนดมแล้วสดชื่น หรือดมแล้วคลื่นไส้ สีไหนเห็นแล้วสดใส หรือชวนให้หม่นใจ รับได้ไหมกับ "หนาม(ใหญ่)" ที่เขามี คุณลักษณะใดที่ไม่เอาแน่ๆ เช่น พันกันเป็นไม้เลื้อย

ระหว่างเดินชมสวน เราก็ชื่นชมความงามของการทรงสร้างไป ใช้ชีวิตไปอย่างมีความสุข เห็นโลกอย่างที่เป็นในความสวยงามที่พระเจ้าสร้างไว้

ถ้าเราเห็นดอกไม้ที่เราต้องการ ก็เดินช้าลงสักหน่อย หรือหยุดซักครู่ พิจารณาให้ดีๆว่าเราจะไปต่อคนเดียว หรือจะถือดอกไม้นั้นไปด้วย อาจต้องใช้เวลาบ้างแต่ก็อย่าให้นานเกิน ชีวิตยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องรับผิดชอบ

บางคนก็หยิบมาก่อน คิดในใจว่า ถ้าไปข้างหน้าแล้วเจอที่ถูกใจกว่า หรือไม่ถูกใจค่อยเปลี่ยนใหม่... ต้นไม้เปลี่ยนดินยังต้องใช้เวลาในการปรับตัว แล้วคนต้องใช้เวลาเท่าไหร่ในการปรับใจ

ถ้ายังไม่รู้จักรู้ใจตัวเองก็อย่าเพิ่งดีกว่ามั้ง ? วันที่รู้ใจตัวเองแล้ว ถ้าที่อยู่ในมือตรงกันก็ดีไป แต่ถ้าไม่ ใครบางคนอาจไม่สามารถใช้ชีวิตได้สมกับที่ตัวเองเป็น ใช้ชีวิตไม่ได้สุดใจเพราะดอกไม้ที่อยู่ในมือ และนั่นก็คงมีส่วนให้คนที่เขารักเราทุกข์ใจไปด้วย

คนที่รู้ความต้องการของตัวเองแล้วจริงๆ (ไม่ใช่แค่คิดว่ารู้นะ) เลือกแล้วย่อมเสียใจน้อยกว่าคนที่ไม่รู้จักตัวเอง แต่คนที่รู้ความต้องการของพระผู้สร้าง เลือกแล้วจะอิ่มใจมากขึ้นทุกวัน แม้การเลือกนั้น คือ เดินออกจากสวนมือเปล่าก็ตามที

คนที่ใช้ชีวิตสนุกไปวันๆ คงไม่ง่ายๆที่จะเห็นความต้องการในอนาคต คงไม่ง่ายที่จะรู้ว่าเราจะต้องทำอะไร รับผิดชอบอะไร ชีวิตมักเต็มไปด้วยคำว่าอยากทำอะไร... ไม่ง่ายที่คนเหล่านี้จะรู้จักคำว่า "พอเพียง"

บางคนแย้งว่า เขารู้จัก เพราะเขาได้รับแล้ว... มันต่างกัน
"ความพอเพียง" เกิดจากความตั้งใจ รู้จักตัวเอง กำหนดความต้องการ และลงมือแสวงหา แต่
"ความเพียงพอ" เกิดจากความรู้สึกพอ หลังจากที่เราได้รับบางสิ่งมา

สำหรับหลายคน ความรู้สึกพอในวันนี้ อาจกลายเป็นความไม่อิ่มใจในวันหน้า (หากเขาเติบโตขึ้นในการรู้จักความจริงและการยอมรับตัวเอง) คนที่รู้จักพอเพียง จะรู้จักคำว่าเพียงพอ แต่คนที่รู้จักเพียงพอ ชีวิตนี้อาจไม่รู้จักความพอเพียงเลย ก็เป็นได้

ชีวิต... มีช่วงวัยของมัน ไม่ต้องรีบร้อน แต่ก็ต้องไม่ละเลย ถ้ายังมีคำถามในใจว่า ต้องรอให้โตถึงเมื่อไหร่ หรือมั่นใจเกินเหตุว่าเราโตแล้ว... นี่อาจเป็นเวลาดีที่เราควรเรียนรู้จักกับคำว่า... "ความพอเพียงของชีวิต"




ปล.1 ก่อนหน้าจะอาบน้ำ นึกถึงคนๆหนึ่งกับเรา แล้วก็มีคำว่า "perfect" อยู่ในหัว ในขณะที่รู้อยู่เต็มอก ว่าเราสองคนไม่มีคนไหน perfect ...ก็เป็นเรื่องปกติของมนุษย์เราแหล่ะเนอะ ใครมันจะสมบูรณ์แบบไปซะทุกเรื่อง

ปล.2 ขอถวายเรื่องนี้ เป็น 1 สิ่งดีทำเพื่อพ่อ เนื่องในวโรกาสฉลองพระชนมายุครบ 80 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม 2550

1 comment:

  1. ช่วงนี้หน้าหนาว การอาบน้ำจะลดลง 50% ทำให้สูญเสียโมเม้นต์ดีๆตอนคิดอะไรออกตอนอาบน้ำ 555

    การที่คนบางคนที่ไม่รู้จักตัวเองอาจจะไปทำร้ายคนบางคนที่รู้จักตัวเอง....ก็เป็นได้

    ReplyDelete