Nov 6, 2007

ครั้งหนึ่งในความทรงจำ... the terminal

สวัสดีครับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อนผมชวนไปดูหนังเรื่อง “The Terminal” ชอบมากเลยครับ เป็นเรื่องของผู้ชายคนหนึ่ง ที่ต้องติดอยู่ที่สนามบิน สถานที่ซึ่งเขาจำเป็นต้องอาศัยอยู่ ความจำใจที่ต้องรอคอย กับหัวใจที่อ่อนสุภาพของเขา และมิตรภาพที่ก่อกำเนิดขึ้น ในความคิดของผม ดูจะเป็นประเด็นที่เล็กเหลือเกิน เมื่อเทียบกับสิ่งเล็กๆ ที่ถูกเก็บอยู่ในกระป๋อง หุหุ ใครอยากรู้ว่าคืออะไร ต้องไปหาหนังมาดูกันเอาเองนะครับ หนังเฉลยไว้ตอนท้ายเรื่องครับ

ดูหนังจบแล้วมาย้อนดูตัว ได้ข้อคิดมาแบ่งปันเช่นเคยครับ

1. “การรอคอย” เป็นเรื่องปกติของชีวิตมนุษย์ เป็นธรรมชาติของการมีชีวิตอยู่ รอใครสักคน รออะไรสักอย่าง ขึ้นอยู่กับว่า เราจะใช้ “เวลา” ระหว่างการรอคอยนั้นอย่างไร ด้วยความผิดหวังเจ็บปวด ด้วยความขมขื่นหรือ ด้วยความเข้าใจ ด้วยความคิดแง่บวก จดจ่อกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น หรือกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า จะเดินอย่างมีความหวังเป็นคบเพลิงนำทาง หรือบ่นต่อว่าสถานการณ์ที่ไม่เป็นดั่งใจเราต้องการ เราเลือกได้

2. “คำสัญญา” เป็นสิ่งสำคัญ ให้สัญญาอะไรไว้กับใครแล้ว แม้ต้องเสียชีวิตก็ต้องทำให้สำเร็จ ไม่มีข้ออ้าง ไม่มีคำแก้ตัว ไม่เกี่ยวข้องกับคู่สัญญา เป็นเรื่องของความเคารพนับถือที่เรามีต่อตัวของเราเอง

3. “ชะตาชีวิต” เป็นเส้นทางที่กำหนดไว้แล้วเพื่อให้เราเลือกเดิน เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อให้เราเลือกตอบสนอง แต่บ่อยครั้งที่คนเรามักเคยชินกับสิ่งเดิมๆ อยากจะเปลี่ยนแปลงแต่ไม่กล้าละทิ้งความคุ้นเคย ไม่ได้จ่ายราคาเพื่อเขียนเส้นทางชีวิตใหม่ๆให้ตัวเอง ยังเด็ดขาดกับตัวเองไม่พอที่จะทำให้ความปรารถนาเกิดขึ้นเป็นจริง แล้วก็โทษว่าเป็นเพราะชะตาชีวิตลิขิตไว้แล้ว ท้อใจโทษตัวเองว่าเราคงดีขึ้นกว่านี้ไม่ได้ ใครก็ตามที่ออกเดินไปแล้ว ก็ไม่สมควรหันหน้ากลับ เพื่อที่เขาจะมีวิถีชีวิตใหม่ และไปถึงจุดหมายได้ดั่งที่เขาตั้งใจไว้

4. เปิดหู เปิดตา เปิดหัว เปิดใจ ให้กว้างๆ ทุกอย่างเรียนรู้ได้ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ...ยอม ที่จะรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นตรงหน้าเรา เพื่อที่วิถีชีวิตของเรานั้นจะดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น

5. ถ้าอยากให้คนอื่น “เข้าอกเข้าใจ” เรา ก็จงเรียนรู้ที่จะ “เข้าอกเข้าใจ” ผู้อื่นก่อน และกล้าที่จะแสดงออกมาอย่างเหมาะสมด้วย รักตัวเองอย่างไร ก็จงรักคนอื่นอย่างนั้น ตัวเองอยากได้อย่างไร ก็จงให้ผู้อื่นอย่างนั้น

พอดูหนังเรื่องนี้จบแล้ว ผมคิดว่าสักครั้งใน 1 ชีวิตที่มีอยู่ เราน่าจะทำอะไรสักอย่าง เพื่อใครสักคน ลงมือทำจริงๆ อดทน รอคอย จนสำเร็จ ทำให้เสร็จก่อนเราตาย ขอแค่อย่างน้อย 1 อย่าง

ผมคิด และเริ่มลงมือทำแล้วครับ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆคิดหมายอะไรไว้ในใจบ้างหรือยังครับ ถ้ายังก็ลองคิดดูนะครับ ถ้าคิดแล้วก็ลงมือทำตั้งแต่เดี๋ยวนี้เลยครับ ได้เรื่องอย่างไร ก็เล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ

สุดท้ายขอฝากข้อคิดไว้ว่า มีวาระสำหรับทุกสิ่ง ทุกอย่างภายใต้ฟ้าสวรรค์นี้ มีฤดูกาลของมันเองครับ ความเศร้าใจ ปัญหา ความหนักอกหนักใจ อาจจะดูอ้อยอิ่งอยู่สักครู่หนึ่ง แต่ความสดชื่น กำลัง และความสำเร็จ จะเกิดขึ้นเป็นแน่ครับ เหมือนดวงอาทิตย์ที่ฉายแสงส่องเสมอทุกเวลาเช้า ขอให้ท้ายที่สุดทุกคนเป็นผู้ชนะ(ตัวเอง)เสมอนะครับ “Winner never quit, Quitter never win” ขอให้ทุกท่านมีกำลังใจเสมอครับ พบกันใหม่เรื่องหน้าครับ สวัสดีครับ

22 กันยายน 2004

1 comment:

  1. เป็น blog ที่น่าอ่านมากเลยนะคะ
    เขียนบ่อยๆเน้อ

    ReplyDelete