Dec 15, 2008

เรื่องราวรัก ตอนที่3 ทางเลือก

ผมเริ่มหันมามองผู้เชื่อที่อยู่รอบๆตัว ความสนิทสนมที่ก่อตัวขึ้น จากการร่วมรับใช้พระเจ้าด้วยกัน ความรู้จักเข้าใจที่เกิดจากการเห็นชีวิตของกันในการรับใช้ และการร่วมทำกิจกรรมกลุ่มด้วยกัน หลายๆอย่างสร้างความประทับใจให้เกิดขึ้นกับผม จนกระทั่ง เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ที่จุฬา...

เธอเริ่มห่างชุมชน เริ่มไม่มาโบสถ์ หลายๆอย่างเริ่มแปลกๆไป แต่ผมก็ยังเชื่อในส่วนดีของเธออยู่นะ จนกระทั่งเธอมีแฟน...

ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็เตือนไปตามปกติ เหมือนที่เคยเตือนคนอื่น ผมเชื่อว่า มนุษย์ทุกคนมีเหตุผล และทุกคนจะทำในสิ่งที่ตัวเองเชื่อว่า ดีที่สุดเสมอ ผมเคารพและให้เกียรติในการตัดสินใจเลือกของแต่ละคนเสมอ

ในระยะเวลา 3-4 ปีช่วงนั้น ก่อนที่เธอจะมีแฟน ผมได้รู้จักตัวเองในฝ่ายวิญญาณมากขึ้น ทั้งเรื่องของประทาน การทรงเรียก รวมทั้งการถูกสอนวิธีคิดเรื่องคู่ครองตามชอบพระทัยพระเจ้า ที่สำคัญ คงเป็นเรื่องของความจำเป็นต่อคำถามว่า ทำไมผมถึงจำเป็นต้องแต่งงาน เมื่อใช้เรื่องการทรงเรียก และของประทาน การเสริมสร้าง มาเป็นหลักในการคิดเรื่องคู่อุปถัมภ์จากรายชื่อสาวคริสเตียนที่ผมรู้จักร่วมร้อยคน ก็เหลือเพียง 4 คนเท่านั้น ซึ่งคนที่น่าสนใจที่สุด เธอก็ไปมีแฟนข้างนอกเสียแล้ว

ผมเริ่มอธิษฐาน ช่วงนั้น พระเจ้าก็นำให้ได้มีโอกาสรู้จักกับคนเหล่านี้แต่ละคนมากขึ้นในแต่ละช่วงเวลา แวะมาแล้วก็จากไป แต่เรื่องราวของเด็กบัญชี จุฬา ก็ยังคงวนเวียนอยู่ในความรู้สึกเสมอ จนเธอบอกผมว่า เธอจะเลิกกับแฟนเธอแล้วนะ เธออยากจะกลับมาหาพระเจ้า

หลังจากที่ทำใจอยู่ครู่หนึ่ง ผมไม่เคยมีช่วงเวลาไหนที่จะคร่ำครวญแสวงหาการช่วยเหลือจากพระเจ้ามากขนาดนี้ ผมทำทุกอย่างที่จะสามารถทำได้ เพื่อจะขอให้พระเจ้าเป็นผู้ที่เคลื่อนไหวในการช่วยกู้เธอครั้งนี้ แล้วเธอก็กลับมาใช้ชีวิตในทางพระเจ้าอีกครั้ง สำหรับความสัมพันธ์ของเราก็ดูเหมือนกำลังจะกลับมาสานต่อกันใหม่อีกครั้ง ทุกอย่างดูเหมือนจะกำลังไปได้ด้วยดี แต่ทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในเวลานั้น ผมเจอวิกฤติของชีวิตที่ค่อนข้างรุนแรง ทั้งเรื่องในครอบครัว เรื่องงาน และเรื่องเงิน เป็นบททดสอบใหญ่อีกครั้งของชีวิต ผมคิดว่าคงมีแค่นั้น ผมคิดว่า อย่างไรผมก็ยังมีคนอยู่คนหนึ่งที่จะช่วยกันเติมแรงใจเมื่อท้อ แต่ผมคิดผิด “ทำไมต้องบอกเค้าด้วย เราเป็นอะไรกันเหรอ” ผมยังจำได้ คงจะพร้อมๆกับการก้าวเข้ามาของคนอีกคนหนึ่งในชีวิตของเธอ ครั้งนี้คงต่างออกไปเพราะหนุ่มคนนั้นเชื่อพระเจ้าด้วย

สาหัสฉกาจมากกับเหตุการณ์ ในช่วง 2 ปีนั้น แต่ขอบคุณพระเจ้านะ วันนี้มองย้อนกลับไป ก็เห็นว่าเราแกร่งขึ้นจริงๆ แรงกดดันบีบเค้นทางจิตใจ และกายภาพ สร้างจิตวิญญาณให้แข็งแกร่งขึ้นมาก การเติบโตขึ้นในครั้งนั้น ทำให้เริ่มคิดหนักว่าจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างไร เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากในการตัดสินใจเลือก แต่สุดท้ายก็ตกลงที่จะเป็นเพื่อนกัน เรื่องนี้ผมไม่ได้บอกใคร

หลังจากนั้น ไม่นาน ผู้นำก็แนะนำให้ผมเริ่มมองคนใหม่ๆ ไม่ปิดใจตัวเอง ตอนนั้นผมก็บอกชื่อไปสองคนที่น่าสนใจ ซึ่งผมไม่รู้จักมากนัก รู้จักแต่เพียงผ่านๆในความเป็นพี่น้องกันในคริสตจักร ถึงอย่างนั้น ใจผมก็ยังคงรู้สึกผูกพันอยู่กับเด็กบัญชีจุฬาอยู่ เกือบ 8 ปี (ในเวลานั้น) คงไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะหักใจกันในเพียงชั่วข้ามคืน แต่ผมก็ตั้งใจ ก็บอกพระเจ้าว่า หากใจผมยังไม่สามารถเป็นปกติกับน้องเขาได้ ผมคิดว่าผมไม่พร้อมที่จะเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ และ เป็นการไม่ให้เกียรติ ไม่ยุติธรรม กับอีกฝ่ายหนึ่งที่ผมจะเริ่มความสัมพันธ์ด้วย

ยิ่งมาช่วงหลังๆที่ชีวิตกับพระเจ้าแย่เอามากๆ สุดท้ายความต้องการเพื่อตัวเองก็อยู่เหนือจิตใจเพื่อพระเจ้า ผมคิดจะปล่อยไปตามหัวใจ ด้วยทะนงว่าเราจะเอาอยู่ ด้วยใจที่ต้องการเพียงเอาชนะ ขอบคุณพระเจ้าที่ยังไม่ได้มีอะไรคืบหน้า จนพระเจ้าเริ่มหันจิตใจกลับมาเรื่อยๆ ก็มาถึงภาวะสุดท้าย... ผมตัดใจไม่ได้ครับ ก็บอกพระเจ้าไปตรงๆ

ขอบคุณพระเจ้า ผ่านไปเกือบ 2 ปี เมื่อคืนก่อน นั่งเก็บของ ได้เจอรูปถ่ายเก่าๆสมัยรับใช้กลุ่มมัธยม แล้วผมก็ลองเข้า Hi5 ไปดูรูปน้องเขา ผมพบว่า เธอเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ผมติดอยู่กับภาพมายาของอดีต ผมชอบน้องเขาคนที่อยู่ในรูป ไม่ใช่น้องเขาคนปัจจุบัน ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องหน้าตา ปกติเราก็พอรู้นิสัยใจคอคนจากสีหน้าแววตาเขาอยู่บ้าง และผมยิ่งค่อนข้างแม่นกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว

ผมโทรศัพท์ไปหาน้องคนหนึ่ง เราเคยรับใช้ในกลุ่มเดียวกันสมัยมัธยม และเมื่อไม่นานมานี้ เขาเดินมาบอกว่า คนที่ผมเคยชอบ ไม่มีอีกแล้ว คุยอยู่สักพักก็เริ่มเข้าใจ ข้อมูลทุกอย่างถูกจับมาปัดฝุ่นแล้วร้อยเรียงด้วยแว่นตาใหม่

แม้ลึกๆในใจ ผมยังหวังใจว่าผมจะคิดผิด แต่ผมก็รู้ว่าความจริงคืออะไร ก็เหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ก่อตั้งคจ.นั่นแหล่ะ วิธีเดียว คือ ท่านต้องออกมาเล่าให้ฟังว่า ระหว่างทางที่ผ่านมา เกิดอะไรขึ้น เธอต้องเป็นคนเล่าให้ผมฟังเองทั้งหมด ถึงจะสามารถเรียกความเชื่อใจกลับคืนมา มีแต่การกลับใจเท่านั้นที่จะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ของเราขึ้นใหม่ได้ แต่ผมรู้จักนิสัยของท่านอยู่บ้าง ท่านไม่พูดแน่ เช่นกัน น้องเขาก็ไม่เล่าแน่ เช่นนี้แล้ว ต่อให้ของประทานเหมาะสมสนับสนุนกันเพียงใด ก็คงไม่มีทางแน่นอน

ไม่เพียงเท่านั้น พระเจ้าทำมากกว่านั้น ผลพวงจากเรื่องนี้ คือซากใจที่แข็งเป็นหินของผม ผมรู้ว่ามันต้องใช้เวลานานมาก กว่าที่ผมจะพร้อมที่จะรักใครอีกครั้ง แต่อัศจรรย์กับวิธีการของพระเจ้า พระองค์ใช้คนคนหนึ่งให้นำเรื่องราวความรักของพระองค์กับเขา เข้ามาละลายใจหินของผมให้อ่อนนุ่มขึ้น เหมือนเมื่อครั้งแรกที่ผมรู้จักความรักของพระเจ้าผ่านทางชีวิตรักในพระเจ้าของพี่เลี้ยงคนแรกของผม

No comments:

Post a Comment